นอร์ริส ซิ่งคว้าแชมป์ F1 ฮังการี แมคลาเรนเหมา 1-2 - อัลบอน จบอันดับ 15
แลนโด้ นอร์ริส พลิกสถานการณ์จากที่ออกตัวไม่ดี ผงาดคว้าแชมป์ฟอร์มูล่า วัน ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ ไปครองได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีเพื่อนร่วมทีม ออสการ์ ปิอัสตรี ตามมาเป็นอันดับ 2 ทำให้แมคลาเรนคว้าตำแหน่งวันทูได้อย่างสุดมันส์ สำหรับนักขับชาวไทย อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ จากทีมวิลเลี่ยมส์ จบการแข่งขันในอันดับ 15 และไม่ได้คะแนนในสนามนี้ ก่อนที่ศึกฟอร์มูล่าวันจะเข้าสู่ช่วงพักเบรก ก่อนจะกลับมาดวลความเร็วกันอีกครั้งที่เนเธอร์แลนด์ในปลายเดือนสิงหาคมนี้
การแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ฤดูกาล 2025 สนามที่ 14 รายการ ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามฮังกาโรริง กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 3 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ (Main Race)
การแข่งขันเริ่มต้นอย่างดุเดือด ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ที่ออกสตาร์ตจากตำแหน่งโพล โพซิชั่น สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ตามมาด้วย ออสการ์ ปิอัสตรี ขณะที่ จอร์จ รัสเซลล์ แซงขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ส่วน แลนโด้ นอร์ริส หล่นไปอยู่อันดับ 5 ชั่วคราว
แม้จะออกตัวได้ไม่ดีนัก แต่ แลนโด้ นอร์ริส ก็เร่งเครื่องแซง เฟร์นานโด อลอนโซ่ ขึ้นมาได้ในรอบที่ 3 ทางด้าน แม็กซ์ เวอร์สแต๊พเพ่น แชมป์โลก 4 สมัย ที่ออกสตาร์ตจากอันดับ 8 แม้จะหล่นไปอันดับ 9 แต่ก็สามารถไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 7 ได้ ทว่าก็ไม่สามารถเบียดกับกลุ่มผู้นำได้ และจบการแข่งขันในอันดับ 9
ในช่วง 1 ใน 3 ของการแข่งขัน ชาร์ลส์ เลอแคลร์ เข้าพิตเปลี่ยนยางชุดแรก ในขณะที่ แลนโด้ นอร์ริส ยังคงใช้ยางชุดเดิมและขึ้นนำ ในรอบที่ 28 ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ไล่ตามเข้ามาใกล้ ทำให้ทั้งสองนักขับต้องปรึกษากับทีมงานเกี่ยวกับกลยุทธ์การเข้าพิตที่อาจแตกต่างกันไป
เมื่อผ่านครึ่งทางของเรซ เลอแคลร์ กลับขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่ก็ถูกเรียกเข้าพิตอีกครั้งในรอบที่ 41 ทำให้ ออสการ์ ปิอัสตรี ขึ้นเป็นผู้นำ ส่วน แลนโด้ นอร์ริส ก็พยายามแซง จอร์จ รัสเซลล์ ที่เข้าพิตหลังจากนั้นไม่นาน และกลับออกมาอยู่ใน 4 อันดับแรก ขณะที่ ปิอัสตรี ก็เข้าพิตครั้งที่สองหลังจากนั้นไม่นาน
ในรอบที่ 51 ปิอัสตรี แซง เลอแคลร์ ขึ้นสู่อันดับ 2 และเมื่อเข้าสู่ 5 รอบสุดท้าย เลอแคลร์ ก็ถูก จอร์จ รัสเซลล์ แซงไปอีก และในช่วง 3 รอบสุดท้าย ปิอัสตรี ไล่ตาม นอร์ริส อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันเองของสองนักแข่งจากทีมแมคลาเรน จนทีมงานต้องเตือน ปิอัสตรี เกี่ยวกับการแข่งขันกันเอง เนื่องจากมีการเบรกล้อล็อกและเกิดความผิดพลาดหลายครั้ง
เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันครบ 70 รอบ แลนโด้ นอร์ริส เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที 21.231 วินาที ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ ออสการ์ ปิอัสตรี เพื่อนร่วมทีมแมคลาเรน โดยตามหลังเพียง 0.698 วินาทีเท่านั้น และอันดับ 3 ได้แก่ จอร์จ รัสเซลล์ จากเมอร์เซเดส เอเอ็มจี ตามหลัง 21.916 วินาที ส่วน ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ที่ออกตัวจากตำแหน่งผู้นำ จบการแข่งขันในอันดับ 4
สำหรับนักแข่งชาวไทย อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ จากทีมวิลเลี่ยมส์ ออกตัวจากอันดับ 19 และสามารถขยับขึ้นมาได้ 3 อันดับในทันที อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสนามฮังกาโรริงอาจไม่เข้ากับสมรรถนะของรถวิลเลี่ยมส์ ทำให้เขาจบการแข่งขันในอันดับ 15 และไม่ได้รับคะแนนในสนามนี้
หลังจากจบสนามนี้จะการพักการแข่งขัน (Summer Break) ก่อนจะกลับมาแข่งขันกันต่อในรายการ ดัตซ์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามซันต์โฟร์ต เซอร์กิต เมืองซันต์โฟร์ต ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค.68 นี้