เร่งจัดชุด EOD ตรวจทำลายวัตถุระเบิดต่อเนื่อง
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 22.13 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมททำเนียบ 4 ส.ค.- รัฐบาลเร่งจัดชุด EOD ตรวจทำลายวัตถุระเบิดต่อเนื่อง ขอประชาชนเช็กข้อมูลพื้นที่จากทางราชการก่อนกลับบ้าน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชาได้ลอบวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน และมีเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบระเบิด และกัมพูชาได้ใช้อาวุธสงคราม หลายจุดตลอดแนวชายแดน ส่งผลจนถึงปัจจุบันยังมีวัตถุอันตราย และวัตถุต้องสงสัย ตกหล่นอยู่ในพื้นที่สาธารณะใกล้บ้านเรือนประชาชน ขอให้ประชาชนชะลอการเดินทางกลับที่พัก โดยเฉพาะที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ขอให้ตรวจสอบกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ และทุกหน่วยที่มีหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด โดยจะได้เข้าทำตรวจสอบ พิสูจน์ทราบ เก็บกู้ และเคลียร์พื้นที่จากวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด โดยย้ำความปลอดภัยของประชาชนคือภารกิจที่สำคัญที่สุด
นายจิรายุ กล่าวว่า กองทัพได้จัดชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือ EOD เข้าตรวจสอบเพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง ซึ่งได้ทำลายไปแล้ว 17 พื้นที่ คงเหลือ 63 พื้นที่ (ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น.) ขณะที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดสุรินทร์ ได้ออกคำสั่งด่วนที่สุดถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ พร้อมขอให้อำเภอ ยึดหลักปฏิบัติ “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ในระดับสูงสุดเมื่อเย็นวานนี้ ( 3 ส.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น.) ดังนี้
- ประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนงดกลับเข้าภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดนจนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ และขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก
- ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกตรวจสอบพื้นที่ หากพบวัตถุระเบิดหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นใด จากเหตุที่มีการสู้รบในพื้นที่ ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และให้รีบรายงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยทหารในพื้นที่ เข้าดำเนินการตรวจสอบและทำลาย
- กรณีมีเสียงดังคล้ายระเบิดในพื้นที่อำเภอชายแดน อย่าได้ตื่นตกใจเนื่องจากเป็นการเก็บกู้และทำลายระเบิดที่ตกค้างในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ และ 4. กรณีพบเห็นอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินในพื้นที่ขอให้แจ้ง ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หรือแจ้งสายด่วนความมั่นคง 1374 ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ จังหวัดจันทบุรี ได้ขอความร่วมมือจากเครือข่ายภาคเอกชนที่ใช้โดรน (ภาคเกษตร สันทนาการฯลฯ) หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือมีอุปกรณ์ เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมในการตรวจจับ ป้องกัน หรือต่อต้านการใช้งานโดรน (Anti-Drone) ให้ติดต่อหรือประสานข้อมูลกับ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจังหวัดจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) เพื่อการมีส่วนร่วมในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ด้วย
“หากพบวัตถุต้องสงสัยว่าอาจเป็นวัตถุระเบิดให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทันที ห้ามเคลื่อนย้าย หรือสัมผัสโดยเด็ดขาด และควรรีบออกจากพื้นที่เสี่ยงโดยเร็วที่สุด” นายจิรายุ กล่าว -สำนักข่าวไทย