24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2568
>> “ธีรรัตน์” ติดตามสถานการณ์ผลกระทบพายุวิภา พร้อมสั่งการทุกจังหวัดเสี่ยงเฝ้าระวังต่อเนื่อง 24 ชม.
08.15 น. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา”
น.ส.ธีรรัตน์ ได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือประชาชนซึ่งขณะนี้ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้งด้านการเฝ้าระวัง การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเตรียมการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบ พร้อมชื่นชมว่าหน่วยงานภาครัฐได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างครอบคลุมมากกว่าปีก่อน มีการอพยพล่วงหน้า ลดความสูญเสียได้มาก จึงเป็นภาพสะท้อนของความเชื่อมั่นและลดแรงกดดันจากสังคมที่มีต่อภาครัฐ
สำหรับภาพรวมผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 68 ถึงปัจจุบัน เกิดอุทกภัยและดินถล่ม 11 จังหวัด 67 อำเภอ 303 ตำบล 1,610 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,080 ครัวเรือน 145,000 คน ขณะนี้คงเหลือ 4 จังหวัดที่ยังมีผลกระทบ ได้แก่ จ.น่าน เชียงราย แพร่ สุโขทัย รวม 31 อำเภอ 140 ตำบล 638 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 31,599 ครัวเรือน 106,000 คน โดยหลายพื้นที่ตอนนี้ระดับน้ำทรงตัวและลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดย ปภ. และพื้นที่ ได้เร่งระดมเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่ และทำความสะอาดดินโคลน เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วนต่อไป
>> ปลัด มท. เผย ยอดประชาชนผู้อพยพ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เกือบ 2 แสนคน
08.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงจำนวนประชาชนผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนผู้อพยพรวม 188,734 คน ใน 770 ศูนย์พักพิง ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ 82,021 คน 435 ศูนย์, จังหวัดสุรินทร์ 55,898 คน 130 ศูนย์, จังหวัดบุรีรัมย์ 24,480 คน 112 ศูนย์, จังหวัดอุบลราชธานี 21,838 คน 68 ศูนย์, จังหวัดสระแก้ว 2,652 คน 13 ศูนย์, จังหวัดตราด 1,621 คน 8 ศูนย์ และจังหวัดจันทบุรี 224 คน 4 ศูนย์
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 7 จังหวัดเน้นย้ำนายอำเภอได้สร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้ได้พักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงไปก่อน จนกว่าจะได้รับการยืนยันด้านความปลอดภัยจากทางราชการ พร้อมทั้งดูแลในเรื่องการดำรงชีวิตในศูนย์พักพิง ทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ และประสานจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของ เพื่อขอรับการสนับสนุนให้ครบถ้วนเพียงพอ
"ทั้งนี้ หากได้รับการยืนยันจากฝ่ายความมั่นคงว่าสามารถกลับพื้นที่ภูมิลำเนาได้แล้ว ทางรัฐบาลจะได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพาพี่น้องประชาชนกลับไปยังภูมิลำเนาต่อไป" นายอรรษิษฐ์ กล่าว
>> ผู้ว่าฯสุรินทร์ พร้อม ผบ.มทบ.25 ร่วมพิธีส่งร่างทหารกล้าที่พลีชีพจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทยกัมพูชา กลับมาตุภูมิ
11.00 น. ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ มณฑลทหารบกที่ 25 (มทบ.25) ได้จัดพิธีอย่างสมเกียรติ ก่อนนำร่างทหารกล้า 2 นาย คลุมด้วยธงชาติเคลื่อนออกจากที่เก็บร่าง เคลื่อนขบวนด้วยรูป และหีบศพ ขึ้นรถ GMC ของ มทบ.25 โดยมี พลตรีไชยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมด้วยนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และทหารกองเกียรติยศ ทหารจากค่ายวีรวัฒน์โยธิน และ มณฑลทหารบกที่25 ยืนทำความเคารพ อย่างสมเกียรติ โดยจัดขบวนเคลื่อนไปยัง สนามบินสุรินทร์ เพื่อนำส่งต่อยังมาตุภูมิ ซึ่งจะจัดพิธีฌาปนกิจแด่ทหารกล้าอย่างสมเกียรติต่อไป
สำหรับทหารกล้าผู้พลีชีพ ประกอบด้วย ส.อ.อัมรินทร์ ผาสุข สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 เสียชีวิตจากการสู้รบในพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เสียชีวิต 28 ก.ค.68
จ่าสิบเอก อโณทัย ป้องแก้ว สังกัด กองพันปฏิบัติการพิเศษ สละชีพจากการสู้รบในพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เสียชีวิต 28 ก.ค.68
โอกาสนีั ผวจ.สุรินทร์ และผบ.มทบ.25 ได้พบปะและคุยกับญาติพี่น้องของทหาร พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจและชื่นชมในความเป็นทหารกล้าสละชีพ เพื่อรักษาอธิปไตย ท่ามกลางน้ำตาของผู้บังคับบัญชาที่สูญเสียลูกน้องในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และอธิปไตย
>> "ผบช.สอท." ลั่น ไม่ยอมให้ไทยเป็นฐานโจมตีไซเบอร์ เดินหน้าปราบเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
11.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ สอท. แถลงถึงสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา ชี้มีความเชื่อมโยงกับขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ และกลุ่มทุนสีเทา เผยตำรวจไซเบอร์เดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายพนัน ฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่ลักลอบเข้าชายแดนทางด่านสระแก้ว
ย้ำภารกิจหลักคือการปกป้องประชาชนไทยจากภัยไซเบอร์ทุกรูปแบบ พร้อมเปิดเผยว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว 13 ราย และมีอีกกว่า 200 รายเฝ้าระวังอยู่
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนพบความเกี่ยวพันกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ตำรวจไทยยืนยันจะยืนหยัดด้วยหลักกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และความร่วมมือระหว่างประเทศ พร้อมส่งสารถึงประชาคมโลกผ่าน #TruthFromThailand เพื่อเผยความจริงและต่อต้านข่าวปลอมที่บิดเบือนสถานการณ์ พร้อมส่งกำลังใจถึงเจ้าหน้าที่แนวชายแดน และย้ำว่า "ความมั่นคงทางไซเบอร์ คือความมั่นคงของชาติ" ยืนยันจะไม่ยอมให้ภัยไซเบอร์คุกคามอนาคตคนไทย
>> เปิด 7 ข้อตกลงหยุดยิง แม่ทัพภาค 2 ไทย-กัมพูชา เจรจาแก้ปัญหาชายแดน
12.19 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาระหว่างฝ่ายทหารไทยและกัมพูชาในระดับผู้บัญชาการหน่วยทหารพื้นที่ โดยยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ของไทยได้พบปะหารือกับกองทัพกัมพูชาแล้ว
สำหรับ กองทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้พบกับ รองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ที่จุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ โดยการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ข้อสรุปร่วมกัน 7 ข้อ ได้แก่ หยุดยิง, ห้ามใช้ความรุนแรงต่อประชาชน, ห้ามเสริมกำลังเพิ่มเติม, ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพล, อำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต, จัดตั้งชุดประสานงานฝ่ายละ 4 คน เพื่อแก้ไขสถานการณ์ และ รอผลการประชุม GBC (General Border Committee) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ก่อนพิจารณาแนวทางเพิ่มเติม
ขณะที่ก่อนหน้านี้ กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะกองกำลังบูรพา และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ได้ดำเนินการพบปะหารือกับฝ่ายกัมพูชาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำกลางถนน สาววัย 30 ปีเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.
12.13 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยสากเหล็กการกุศลสงเคราะห์ เกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 11 เลยสะพานข้ามคลองสากเหล็ก บริเวณทางกลับรถ ในพื้นที่ อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ป้ายทะเบียน 800 พิจิตร ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิง อายุประมาณ 30 ปี ไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทำการ CPR และประสานขอกู้ชีพโรงพยาบาลสากเหล็ก มาร่วมดำเนินการ และนำส่งโรงพยาบาลสากเหล็ก และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สากเหล็ก
>> ศบ.ทก. เผยหลังหยุดยิง ไทยรักษาได้ 11 พื้นที่ ประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลง
13.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการแถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมี พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แถลง
พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ระบุว่า จากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาในเวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งไทยยืนยันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หยุดยิงในทุก ๆ พื้นที่ ตามข้อตกลงที่ให้คำมั่นสัญญา แต่หลังจากเลยเวลากำหนดหยุดยิงไทยได้พิสูจน์ทราบว่า กัมพูชาได้ใช้อาวุธจริงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในหลายจุดถือเป็นการกระทำที่จงใจละเมิดข้อตกลง และทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิการป้องกันตนเอง ตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนี้ ยังปรากฏทราบว่าทางฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง ซึ่งเป็นการละเมิดพันธะกรณีคุ้มครองทางวัฒนธรรม ของสหประชาชาติ ภายใต้อนุสัญญาของยูเนสโก สิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดว่าการละเมิดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ให้กันไว้ ศบ.ทก. ขอประณามการกระทำของทหารกัมพูชา
>> ตำรวจนครบาล ระดมกำลังกว่า 100 นาย ร่วมกันปิดล้อม-ตรวจค้น สถาบันชื่อดังย่านปทุมวัน ก่อนวันสถาปนา
16.00 น. พล.ต.ตโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน, ตำรวจสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล 6 และ ตำรวจสายตรวจ 191 ได้รับมอบหมายให้ชี้แจงภารกิจ การเข้าปิดล้อมตรวจสถาบัน 2 แห่งย่านปทุมวัน วัตถุประสงค์เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธที่อาจจะนำมาใช้ก่อเหตุในห้วงวันงาน ซึ่งจะจัดขึ้นเนื่องด้วยคล้ายสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ครบรอบ 93 ปี (1 ส.ค.68 )
ภายหลังจากการตรวจค้น พบอาวุธมีด ทั้งหมด 13 เล่ม และวิทยุสื่อสารสีดำ 2 เครื่อง โดยของทั้งหมดถูกซุกซ่อนไว้ตามพุ่มไม้ ซอกตึกและใต้อาคารเรียน และพบอาวุธมีด 3เล่ม ซึ่งของกลางทั้งหมดไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
>> รมช.สธ.นำทีม MCTT ลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. เยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบเหตุกราดยิง – เร่งตรวจประวัติผู้ก่อเหตุ
16.08 น. นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมหน่วยเคลื่อนที่ด้านสุขภาพจิต (MCTT) ของสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และกรมสุขภาพจิต ลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. เพื่อเยียวยาและให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัว
รมช.สธ. ระบุว่า มีการให้คำปรึกษา พูดคุยประเมินภาวะเครียดแก่ผู้ได้รับผลกระทบ โดยเน้นการฟื้นฟูสุขภาพจิตควบคู่กับการรักษาร่างกาย พร้อมเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงเกษตรฯ และกรมการแพทย์ เพื่อพิจารณานำผู้บาดเจ็บจากโรงพยาบาลเอกชนไปรักษาต่อในโรงพยาบาลรัฐ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
ในประเด็นการตรวจสุขภาพจิตผู้ขอใบอนุญาตครอบครองปืน รมช.สธ. ย้ำว่าแม้ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แต่เรื่องสุขภาพจิตถือเป็นปัจจัยแปรผันที่เปลี่ยนแปลงได้ จึงต้องพัฒนาแนวทางรองรับกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะ
>> เพลิงไหม้รถยนต์ บริเวณทางลงด่วนพระรามที่ 6 เสียหายวอดทั้งคัน
17.22 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ บนทางพิเศษ ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง ไม่ทราบสี ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สายไฟ ภายในห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยดุสิต
>> CIB ส่งขบวนรถลำเลียงถุงยังชีพสิ่งของจำเป็น ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ - ผู้ประสบภัยเหตุปะทะชายแดนไทย - กัมพูชา
17.02 น. ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง และมูลนิธิตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกันบรรจุสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค และสิ่งของจำเป็นลงในถุงยังชีพ พร้อมนำขึ้นรถของตำรวจทางหลวง และตำรวจกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเตรียมนำไปมอบให้กับประชาชนและผู้อพยพจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ เราในฐานะของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง อยากสนับสนุนการทำงานของทหาร และช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ให้เราปฏิบัติตามแผนพื้นที่ส่วนหลัง โดยเน้นช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัย ซึ่งจะมีตำรวจทางหลวงภายใต้สังกัด CIB คอยอำนวยความสะดวกอยู่แล้ว อีกทางหนึ่งเป็นการสนับสนุนในเรื่องสิ่งของจำเป็นที่ยังขาดแคลนในพื้นที่ประสบเหตุ โดยได้หารือกับทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และผู้ที่อยู่ในพื้นที่เพื่อจัดหาสิ่งของตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆ ซึ่งวันนี้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รวบรวมสิ่งของจำเป็นร่วมกับผู้สนับสนุน เพื่อเตรียมส่งต่อไปยังพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ฝากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารทุกท่านที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ด้วย เราขอยืนยันว่าในส่วนของตำรวจ เราพร้อมสนับสนุนทุกมิติอย่างเต็มกำลัง
>> กองทัพภาคที่ 2 คุมทหารกัมพูชาที่ยอมจำนน 18 นาย ดูแลตามหลักมนุษยธรรม -รักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ
17.38 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย และในจำนวนนั้นมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย ถูกกระสุนบริเวณสะโพกข้างขวา และ แขนซ้าย ซึ่งภายหลังฝ่ายไทยได้ส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 นาย
ขณะนี้ ทหารกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ณ พื้นที่ปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้จัดเตรียมการดูแลขั้นพื้นฐานไว้ให้ ทั้ง เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และการรักษาพยาบาล ตามความจำเป็น ดูแลให้เป็นไปตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล และยึดหลักมนุษยธรรมสากล จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป
>> ปภ.เชียงราย รายงานผลกระทบจากอุทกภัยและดินถล่ม 8 อำเภอ 28 ตำบล ราษฎรได้รับผลกระทบ 6 พันกว่าครัวเรือน
18.30 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม กรณีเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 68 ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 68 เวลา 17.00 น. สูงสุดที่ ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง (103 มม.) ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง (101 มม.) ต.ริมโขง อ.เชียงของ (101 มม.)
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและดินถล่ม จำนวนรวมทั้งสิ้น 8 อำเภอ 28 ตำบล 171 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร 4 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 6,504 ครัวเรือน ถนน 13 จุด พื้นที่การเกษตร 23,850 ไร่ บ่อปลา 100 บ่อ สัตว์ปีก 500 ตัว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม
>> จับหนุ่มเขมร ฝังตัวในไทย 12 ปี ใช้ไขควงจี้ชิงทรัพย์ ครูสอนว่ายน้ำสาวชาวรัสเซีย กลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
19.10 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังชุดสืบสวนแถลงข่าวการจับกุม นายชอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา หญิงชาวรัสเซียวัย 29 ปี ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋ากลางซอยอรุโณทัย 4 พัทยากลาง ขณะเดินเท้าเพื่อไปแลกเงิน โดยคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ สวมหมวกปิดบังใบหน้า ขับเข้ามาประชิดตัว แล้วใช้ไขควงจี้ชิงกระเป๋าสะพายสีขาว ภายในมีเงินสด 100 ดอลลาร์สหรัฐ เงินไทยประมาณ 1,100 บาท และหูฟัง 1 คู่ ก่อนหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี จนกระทั่งพบว่าคนร้ายซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิทพัทยา 71 จึงระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่ กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่ง ระหว่างเข้าจับกุม คนร้ายไหวตัวทัน วิ่งหลบหนีเข้าป่าระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ก่อนจะหมดแรง ยอมจำนนให้ตำรวจจับกุมโดยดี
จากการขยายผลตรวจค้น พบกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายซุกซ่อนอยู่ในกองขยะใกล้ห้องพัก ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันเกิดเหตุอีก 1 ชุด นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายชาวกัมพูชา ให้การอ้างว่าเข้ามาทำงานก่อสร้างในไทยนานกว่า 12 ปี มีภรรยาและลูกเป็นคนไทย แต่ช่วงนี้ตกงาน หางานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ จึงตัดสินใจก่อเหตุ ก่อนสำนึกผิดยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย
>> แผ่นดินไหวขนาด 4.9 ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา
22.34 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.9 ความลึก 10 กม. บริเวณพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 389 กม. ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศอินเดีย
22.47 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.7 ความลึก 10 กม. บริเวณพื้นที่ของ หมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย ศูนย์กลางห่างออกไป ทางทิศตะวันตกของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 555 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
>> คนร้ายใช้อาวุธมีด ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ย่านเชื่อมสัมพันธ์ซอย 9
05.45 น. ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ตำรวจ 191 แจ้งเหตุ คนร้ายชาย 1 คน สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาล หมวกนิรภัย ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 9 ได้ทรัพย์สิน เป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังก่อเหตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง พื้นที่ สน.หนองจอก