"วุฒิสภา" ระดมเงินบริจาคช่วยเหลือ "ทหาร-ประชาชน" พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 29 ก.ค.2568 ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือทหาร และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปะทะของไทยและกัมพูชาว่า วุฒิสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งหน้าที่หลักในการให้ความช่วยเหลือคือฝ่ายบริหาร ส่วนหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ สนับสนุนฝ่ายบริหารให้ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ซึ่งอีกหน้าที่หนึ่งคือเป็นปากเสียงของประชาชน ซึ่งสว.อยู่ในพื้นที่ใดก็จะลงพื้นที่นั้น เพื่อที่จะเข้าไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน ใครมีศักยภาพส่วนไหนก็ช่วยกันไป โดยนำความเดือดร้อนของประชาชนนำมาพูดคุยกันเพื่อที่จะเสนอแนะหาทางช่วยเหลือต่อไป เช่นเดียวกับการที่วุฒิสภาได้นำทุเรียนในพื้นที่ชายแดนมาช่วยเกษตรกรขาย เนื่องจากประชาชนตามแนวชายแดนไม่สามารถค้าขายได้ เพราะอยู่ในภัยสงคราม
เมื่อถามว่าทางวุฒิสภาจะมีการระดมเงินช่วยเหลือให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ชายแดนหรือไม่นั้น ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้มีการระดมเงินบริจารไว้ส่วนหนึ่ง และสมาชิกวุฒิสภาได้ระดมเงินบริจาคไว้อีกส่วนหนึ่ง ส่วนการลงพื้นจะมีทั้งการลงพื้นที่ร่วมกัน และแยกลงพื้นที่ในแต่ละหน่วย เพราะประชาชนต้องกินต้องใช้จะรอความพร้อมทั้งหมดไม่ได้ เมื่อพร้อมเมื่อใดก็ต้องไปเมื่อนั้น เพราะสไตล์ทำงานของเราคือความทุกข์ยากของประชาชนเรารอไม่ได้ หากพร้อมคนเดียวก็ทำคนเดียว พร้อม 10 คนก็ทำ 10 คน พร้อม 100 คนก็ทำ 100 คน ซึ่งหากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาพร้อมก่อนก็ดำเนินการได้ก่อน เมื่อ สมาชิกวุฒิสภาพร้อมเมื่อใดก็ไปเมื่อนั้น
ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า สำหรับสิ่งของที่ขาดแคลน ประชาชนยังสามารถบริจาคได้คือ สิ่งของที่ขาดแคลนและมีความจำเป็นนั้น อาทิ นมเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูปทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนของอุปโภคบริโภคนั้นขณะนี้ได้มีประชาชนระดมบริจาคแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยไม่แล้งน้ำใจ อย่างไรก็ตามการประชุมวุฒิสภาจะมีการหารือในประเด็นของความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเป็นการประชุมลับ
นอกจากนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้เปิดศูนย์บริจาคโลหิต เพื่อเป็นคลังเลือดสำรองให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะไทยกัมพูชา โดยมีพล.อ.เกรียงไกร, เลขาธิการวุฒิสภา และเจ้าหน้าที่ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเข้าร่วมบริจาคโลหิต