ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด
29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา
ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า
ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า
พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด ส่วนพื้นที่ปราสาทตาควาย สุรินทร์ มีเสียงระเบิด ในช่วงเวลา 03.00 น. และ 05.30 น. โดยทหารกัมพูชาใช้ระเบิด และเปิดฉากยิงตลอดทั้งคืน ขณะที่ช่องบก เนินโนเนม ทหารกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ทหารไทย
เวลา 07.00 น. กำหนดนัดประชุมทหาร 2 ฝ่าย โดยแม่ทัพภาคที่ 1 และภาคที่ 2 ของไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 และที่ 5 ของกัมพูชา แต่ปรากฏว่า การประชุมถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลา 10.00 น.
กระทั่งเวลา 10.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า การพบปะหารือระหว่างผู้บัญชาการหน่วยทหารระดับพื้นที่ของทั้ง 2 ประเทศ ได้ข้อสรุปผลการหารือ ลดความตึงเครียดชายแดน ไทย-กัมพูชา ในประเด็นหลักร่วมกัน 7 ข้อ คือ การหยุดยิงเด็ดขาด โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อยุติการปะทะและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งกำลังพลและประชาชน คุ้มครองประชาชน โดยจะไม่มีการยิงโจมตีหรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน งดการเสริมกำลัง เพื่อป้องกันการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์ ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในพื้นที่ชายแดนที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ร่วมมือและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ จัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และ รอผลการประชุม GBC ซึ่งเป็นการประชุมระดับสูงระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กำหนดไว้ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เพื่อให้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการรับรองและมีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้งสองประเทศต่อไป
ล่าสุด พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปสถานการณ์ การปะทะในพื้นที่ ระหว่างไทยกัมพูชาที่ผ่านมา ไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด 11 พื้นที่ คือ ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมืองธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก ปราสาทโดนตวล สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู พระวิหาร และ พลาญยาว.-สำนกข่าวไทย