"ทัพไทย" จี้เขมรรับผิดชอบลอบวางกับระเบิด ลงโทษคนผิดพร้อมเยียวยา
วันที่ 19 ก.ค.68 พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดน ซึ่งทหารกัมพูชาได้รุกล้ำเขตแดนไทย เข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ของประเทศไทย
กองทัพไทย ขอยืนยันจุดยืน ที่ชัดเจนว่า การกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่ ไม่อาจยอมรับได้ และ กัมพูชา จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม
แม้เราจะยึดมั่นในหลักการของสันติวิธีและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด
แต่การละเมิดอธิปไตยและสร้างภัยคุกคามต่อชีวิตของประชาชนและกำลังพลของเราเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความไว้วางใจและความร่วมมือที่เราพยายามสร้างสรรค์มา
กองทัพไทยตระหนักดีว่า ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใด
ดังนั้น เราจึงเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้
เราคาดหวังว่ากัมพูชา จะแสดงความรับผิดชอบโดย ชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส: *การสอบสวนอย่างละเอียดและเปิดเผยถึงสาเหตุ และผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
* ดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิด: ผู้ที่รับผิดชอบต่อการวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ของไทยจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการจัดการปัญหาและป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนอกขอบเขตอำนาจอีก
* ให้หลักประกันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกกัมพูชาต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการรุกล้ำอธิปไตยหรือการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยเกิดขึ้นอีกในอนาคต
* เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น: การประเมินและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต ทรัพย์สิน และขวัญกำลังใจของประชาชนชาวไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความรับผิดชอบที่จำเป็น
กองทัพไทย เชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน จะยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายเคารพในอธิปไตยซึ่งกันและกัน และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
หากไม่มีการดำเนินการเพื่อแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ จากฝ่ายกัมพูชา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อบรรยากาศความร่วมมือและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างสองประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะทำให้สถานการณ์ชายแดนไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้
เราพร้อมเสมอที่จะหารือและร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติวิธี แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพไทย ก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนไทยในทุกสถานการณ์