สรุปปิดทุกด่าน ข้ามไปกัมพูชา ทั้งอีสานใต้ และภาคตะวันออก | ห้องข่าวภาคเที่ยง
12 ดูห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังจากที่มีการปิดด่านการค้าชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชา 7 จังหวัด ทั้งอีสานใต้ และภาคตะวันออก มีด่านถาวร 6 ด่าน และจุดผ่อนปรน 10 จุด ผลกระทบที่ตามมาเป็นอย่างไรบ้าง คำสั่งดังกล่าว มีผลทันทีตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ 23 มิ.ย. ด่านที่ปิดเพิ่มนอกเหนือจากที่ปิดไปก่อนหน้านี้ ภาคตะวันออก มี 3 จังหวัด คือ จังหวัดสระแก้ว 3 ด่าน คือ จุดผ่านแดนถาวรคลองลึก อำเภออรัญประเทศ, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด และจุดผ่อนปรนบ้านบึงตะกวน อำเภอตาพระยา จังหวัดจันทบุรี มี 4 ด่าน คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน, จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี อำเภอสอยดาว และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม อำเภอสอยดาว ส่วนจังหวัดตราด มี 2 ด่าน คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง อำเภอบ่อไร่ ส่วนอีสานใต้ มีด้วยกัน 5 ด่าน 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตอนแรกปิดไปก่อนหน้านี้ 4 ด่าน เหลือเพียงจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ แต่สุดท้ายก็ปิดทั้งหมด โดยทุกด่านห้ามผ่านเข้าออกเด็ดขาด ยกเว้นด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน, ด้านการศึกษาของนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่, การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ตามความเหมาะสมและจำเป็น ตัวเลขการค้า 5 ด่านสำคัญ ปี 2567 ที่มีการนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้ามากที่สุด อันดับ 1 คือ ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพียงด่านเดียว มีสัดส่วนการค้ามากถึง 63.4 เปอร์เซ็นต์ เรียกกว่าเกินครึ่งของการส่งออกทั้งหมด มูลค่าการค้า 110,718 ล้านบาท รองมาเป็นด่านคลองใหญ่ จังหวัดตราด ด่านนี้มีสัดส่วน 16.8 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าการค้า กว่า 29,000 ล้านบาท อันดับ 3 คือด่านจันทบุรี มีสัดส่วน 15.3 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าการค้า กว่า 26,000 ล้านบาท หากรวม 3 ด่านนี้ จะคิดเป็นสัดส่วนนำเข้าส่งออกเกือบทั้งหมด คือ 95.5 เปอร์เซ็นต์ อีก 2 ด่าน อยู่ที่อีสานใต้คือ ด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ มีสัดส่วน 3.5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 6,084 ล้านบาท และด่านช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ มีสัดส่วน 1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1,818 ล้านบาท รวม 5 ด่าน มูลค่าการค้าคือ 174,530 ล้านบาท ส่วนการค้า 4 เดือน ของปี 2568 คือ มกราคม-เมษายน มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 64,612 ล้านบาท ส่งออกไปกัมพูชาถึง 50,225 ล้านบาท ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทาง นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะกระทบใน 3 ระยะ ระยะสั้น ไม่เกิน 3 เดือน ธุรกิจรายย่อยข้ามแดน เช่น ตลาดชายแดนหยุด ระบบการขนส่งข้ามประเทศหยุดทั้งหมด ระยะกลาง ตั้งแต่ 3-12 เดือน ผู้ส่งออกเร่งหาตลาดหรือเส้นทางการค้าใหม่ ภาคอุตสาหกรรมของไทยที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากกัมพูชาจะเริ่มมีผลกระทบ ต้องหาแหล่งนำเข้าจากที่อื่น หรือภายในประเทศทดแทน ระยะยาว 1 ปี นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่น ไม่กล้าลงทุน และการค้าต้องหาช่องทางอื่น หรือผ่านประเทศอื่นแทน กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero
เล่นอัตโนมัติ