เกษตรกรปลูกอ้อยกว่า 1,000 รายยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท
เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล กว่า 1,000 ราย ยื่นหนังสือถึงพ่อเมืองตาก เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท
วันที่ 1 ก.ค.68 เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล อ.แม่สอด จ.ตาก นำโดยนายบุญปั๋น ละน้อย - นายน้อย ทาแดง พร้อมเกษตรกรชาวไร่อ้อย กว่า 1,000 ราย เดินทางไปที่ว่าการอำเภอแม่สอด จ.ตาก เพื่อยื่นหนังสือถึงนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ผ่านนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือค่าตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท หลัง ครม.มีมติอนุมัติช่วยค่าตัดอ้อยสด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ในกรอบวงเงิน 5,175 ล้านบาท โดยให้เฉพาะอ้อยที่ส่งเข้าโรงงานน้ำตาล ไม่ช่วยอ้อยที่ผลิตเอทานอล ในการยื่นหนังสือวันนี้ นายรัชต์พงศ์ สร้อยสุวรรณ “สส.ปอนด์” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) จังหวัดตาก เขค 2. พรรคประชาชน ก็เดินทางมารับหนังสือ จากเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ด้วยเช่นกัน โดยเกษตรกรขอให้ช่วย เร่งติดตาม ในการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
นายบุญปั๋น ละน้อย ในฐานะประธานเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล จังหวัดตาก แจ้ง เกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ความร่วมมือตั้งแต่พื้นที่แม่สอดปนเปื้อนสารแคดเมี่ยม รัฐให้เกษตรกร งดปลูกข้าวหรือพืชที่เป็นห่วงโซ่อาหารให้มาปลูกอ้อยเพื่อเอาไปผลิตเอทานอล เราก็ร่วมมือด้วยดี และขยายออกไปลูกเพิ่ม ใน 3 อำเภอ คือ แม่สอด, แม่ระมาด และ อ.พบพระ เมื่อประเทศมีปัญหาผลกระทบ ฝุ่น PM 2.5 รัฐบาลและจังหวัด ก็ประกาศขอให้เกษตรกร งดเผาพื้นที่การเกษตร ชาวไร่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐบาลก็มีมาตรการช่วยเหลือ เกษตรกรชาวไร้อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด 120 บาท ต่อตัน เกษตรกรชาวไร่อ้อยผลิตเอทานอล ก็ได้รับการช่วยเหลือมาโดยตลอดทุกปีเหมือนอ้อยน้ำตาล มีปี 66/67 รัฐบาลไม่ช่วย ก็ไม่ได้เหมือนกับอ้อยน้ำตาล แต่พอมาปีนี้ 67/68 รัฐบาลมีเงินชดเชยช่วยเหลือ ตันละ 69 บาท แต่ไม่ช่วยที่ผลิตเอทานอล
เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอลจังหวัดตาก ก็ไม่เข้าใจ ทำไมเราถึงไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้งที่เป็น อ้อยเหมือนกัน ปุ๋ยก็ซื้อราคาเท่ากัน ค่าไถ ค่าตัด ก็เท่ากัน มาวันนี้ก็เพื่อขอให้จังหวัด ช่วยประสานกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ ซึ่งค่าเก็บเกี่ยวอ้อยสดนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ที่เราขอให้ช่วยเท่าเดิม คือตันละ 120 บาท ก็เพราะรัฐบาลช่วย ตันละ 69 บาท แต่ชาวไร่อ้อยน้ำตาลเขาจะขอให้ กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ช่วยอีก ตันละ 51 บาท เท่ากับตันละ 120 บาท เหมือนเดิมแต่อ้อยเอทานอล ไม่ได้อยู่ในระบบน้ำตาล จึงไม่ได้รับการช่วยจากกองทุนฯ
นายบุญปั่น กล่าวทิ้งท้าย อ้อยเหมือนกัน ทำไม ได้ไม่เหมือนกัน ชาวไร่อ้อยตัดอ้อย ส่งโรงงาน บริษัทแม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด เป็นโรงที่มีอ้อยสตมากที่สุด และมีปริมาณอ้อยไพไหม้ น้อยที่สุด เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเกษตรกรให้ความร่วมมือดีที่สุดในประเทศในฤดูการผลิต 2567/2568 มีเกษตรกร 1,792 ราย ส่งอ้อยให้ โรงงาน บ.แม่สอดพลังงานสะอาดมีปริมาณอ้อยทั้งสิ้น 602,739 ตัน มีปริมาณอ้อยสด 600,177 ตัน หรือ 99.57% มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ 2,562 ตันหรือ 0.43 % ของอ้อยทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า หนังสือที่เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล กว่า 1,000 ราย ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ระบุว่า ตามที่รัฐบาล ได้มีมาตรการให้เกษตรกร งดเผาวัสดุทางการเกษตรเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 รัฐบาลมีมาตรการ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด เกษตรกรอำเภอแม่สอดได้รับผลกระทบการปนเปื้อน รัฐบาล มีมาตรการให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพ งดการปลูกข้าวและพืชห่วงโซ่อาหาร โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล เกษตรกรชาวไร่อ้อย ตะหนักถึงปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ ปฏิบัติร่วมมือ งดการเผาอ้อย ตัดอ้อยสด และไถลุกเศษใบอ้อยลงดิน ตามมาตรการของรัฐบาล มาโดยตลอด คิดเป็นเปอร์เซ็นต์อ้อยสดเข้าโรงงาน ดีที่สุดในประเทศ โดยคณะรัฐมนตรี ได้มีมติ อนุมัติ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต ปี 2567 / 2568 สร้างแรงใจแก่ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด กรอบวงเงิน 5,175 ล้านบาท แต่ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเพื่อผลิตเอทานอล จังหวัดตาก ไม่ได้รับเงินชดเชยช่วยเหลือ ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ รัฐบาลช่วย ชดเชย ให้เฉพาะ อ้อยที่ส่งโรงงานน้ำตาลเท่านั้น และกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อผลิตเอทานอล ยังได้ งดเผา ตัดอ้อยสด ตามมาตรการรัฐบาลเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 และได้รับเงินช่วยเหลือ ตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท มาโดยตลอด กลุ่มเกษตรกร จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์มายังหน่วยงานรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือในการเก็บเกี่ยวอ้อยสด ตันละ 120 บาท เหมือน เช่นทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก กลุ่มเกษตรกรไม่ได้อยู่ในระบบน้ำตาลจึงไม่มีกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ดูแล