เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 5.12 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทพิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว
พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ ดังนั้นถ้าหากหายต้องชี้แจงได้
นายอินทพร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีบางกลุ่มออกมาเรียกร้องให้ยุบสำนักพุทธ เนื่องจากทำงานล่าช้า ยืนยันว่า สำนักพุทธฯ ทำงานเต็มที่ ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ไม่ได้หย่อนยาน ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกในการตัดสิน ขณะนี้ก็กำลังดำเนินการแก้ไขกฎหมาย แก้วิกฤติศรัทธา
พระครูวินัยธรวิเชียร วชิรธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ในฐานะผู้แทนวัดประยุรวงศาวาสฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ถือว่า เจ้าคุณประสิทธิ์ พักจากการปฏิบัติหน้าที่ในทุกตำแหน่งของพระสังฆาธิการ ตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ขึ้นไป จนกว่าการชำระอธิกรณ์จะเสร็จสิ้น และมีข้อวินิจฉัย ส่วนการดำเนินการ จะอยู่ที่เจ้าคณะผู้ปกครองที่มาหเถรสมาคมแต่งตั้ง โดยมีเจ้าคณะใหญ่หนกลางเป็นประธาน ก็ต้องดูข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ว่า ผิดทางวินัยอย่างไร แค่ไหน แต่จากข้อมูลภาพแชทต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวตอนนี้ ก็มองว่าการพูดคุยในแชทเท่าที่เห็นในตอนนี้ มากที่สุดก็อาบัติถึงแค่ขั้นสังฆาทิเสส ไม่ถึงขั้นปาราชิก
เพราะถ้าปาราชิก จะต้องเข้า 4 เงื่อนไข คือ เสพเมถุน ลักขโมย ฆ่ามนุษย์ อวดอุตริมนุสสธรรม ทั้งนี้ การจะลาสิกขาหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง หากไม่ได้ปาราชิก ก็ไม่มีอำนาจไปบังคับ เพราะโทษทางวินัยมีทางออกอยู่แล้ว ถ้าอาบัติสังฆาทิเสส ก็ต้องให้ปริวาสกรรม เพื่อปลงอาบัติ และในแง่ความเป็นพระสังฆาธิการ เจ้าคณะผู้ปกครองก็จะพิจารณาโทษจริยาสังฆาธิการอีกส่วนหนึ่ง ตามลำดับขั้นคือ เตือน ทำทัณฑ์บน หรือปลดออกจากทุกตำแหน่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าคณะผู้ปกครอง
ส่วนเมื่อวานนี้ ที่เจ้าคุณประสิทธิ์เข้าไปพบเจ้าคณะใหญ่หนกลางที่วัดไตรมิตรฯ เนื่องจากทางเจ้าอาวาสสั่งให้ไปเข้าพบเอง เพราะทางนั้นมีจดหมายมา เรียกให้เข้าไปพบ แต่จะเข้าไปพบแล้วว่าอย่างไรบ้างนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับทางวัดแล้ว เจ้าอาวาสก็จะไม่ไปก้าวก่าย หลังไปที่วัดไตรมิตรฯ ตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าคุณประสิทธิ์กลับมาจำวัดหรือไม่ เพราะตนไม่เห็น แต่หากไม่ได้กลับมา ไปจำพรรษาที่วัดอื่น ก็ต้องแจ้งเจ้าอาวาส
“เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว
ล่าสุด พระครูวินัยธรวิเชียร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ในฐานะผู้แทนวัด ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าคุณประสิทธิ์ แจ้งมายังเจ้าอาวาสว่าถอดใจ จะสึกแล้ว จากที่ตอนแรกตั้งใจอยากเข้ากระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ไม่ทราบว่าขณะนี้สึกแล้วหรือไม่.-สำนักข่าวไทย