รวบแล้ว! สีกากอล์ฟ สัมพันธ์ลับกับพระ 13 รูป เงินหมุนเวียน 385 ล้าน

รวบแล้ว! สีกากอล์ฟ เขย่าวงการสงฆ์ เปิดโปงขบวนการ “นารีพิฆาตพระ” พบ สัมพันธ์ลับกับพระ 13 รูป เงินหมุนเวียนมากถึง 385 ล้าน เร่ง ลุยตรวจสอบเพิ่มทั่วประเทศ

วันที่ 15 ก.ค. 68 ที่กองบังคับการปราบปราม(CIB) ทางด้านตัวแทน บก.ปปป., บก.ป., ปปท., ป.ป.ช. และ ปปง. แถลงผลการปฏิบัติ “นารีพิฆาตพระ” หลังจากมีการจับกุม นางสาววิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ ที่ไปมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว กับพระชั้นผู้ใหญ่ และมีการโอนเงินให้กัน รวมทั้งมีพฤติกรรมแบล็คเมล์

นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า พระสงฆ์เป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนมาอย่างยาวนาน แต่การที่มีพระบางรูปประพฤติผิด ไม่ควรทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา

สิ่งสำคัญในเวลานี้คือการชำระสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นโอกาสอันเหมาะสมในการทบทวน ปรับปรุง และพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดูแลศาสนาและสังคมได้อย่างยั่งยืน การศึกษาความผิดพลาด เพื่อนำมาแก้ไขในปัจจุบันและวางแนวทางในอนาคต เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้อีก

โดยยอมรับว่าการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เพราะศาสนาเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของประเทศ และการกระทำของบุคคลบางกลุ่มได้สร้างความสะเทือนต่อความมั่นคงทางศรัทธา

ทั้งนี้ ป.ป.ท. ได้รับคำสั่งจาก นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยยืนยันว่าความผิดที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของคนเพียงบางกลุ่มหรือปัจเจกบุคคล ไม่ควรให้ความผิดเพียงเล็กน้อยนี้มาบดบังความดีงามที่พระสงฆ์ได้สั่งสมกันมานับร้อยนับพันปี

จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการฟื้นฟูและเรียกศรัทธากลับคืนสู่พระพุทธศาสนา เพื่อให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบและมั่นคงต่อไป

พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า ทางด้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา และมีการสืบสวนมาตลอด จนทำให้เห็นปรากฏภาพของ กรณีพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ เจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร ลาสิกขา จากนั้นก็ปรากฏชื่อ ของ นางสาววิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาอยู่ในหน้าสื่อ จากนั้น ในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เราได้เชิญ สีกากอล์ฟ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียน และการลาสิขาของเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร อย่างเรื่องเงื่อนงำ
โดยในตอนนี้ มีพระที่เชื่อมโยง กรณีของ อดีตเจ้สอาวาสวัดตรีทศเทพ ลาสิขาไปแล้วทั้งหมด 9 รูปจาก 13 รูป ที่มีเส้นเงินเกี่ยวพันและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสพเมถุน ซึ่งวันที่เรารับข้อมูลมาตั้งแต่วันแรก มีประวัติของสีกากอล์ฟน้อยมาก ใน วันที่ 27 มิถุนายน เราก็ไม่พบอดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เลย ซึ่งเราอยากได้ข้อมูลจากท่านมาก แต่ปฏิบัติการนี้สำเร็จขึ้นมาได้ เพราะวันที่ 4 มิถุนายน ที่ทางปปป. ได้ใช้หมายค้น ไปค้นบ้านสีกากอล์ฟ และเอาตัวเข้ามาพบกับตำรวจจนได้

ขณะที่พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ผบ.ตร., ผบช.ก.ให้ความสำคัญ โดยดำเนินการกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหาหรือฝ่ายสงฆ์ หากใครมาเกี่ยวข้อง และกระทำผิดวินัย ทุจริต ทางตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

โดยมีคำสั่งมาตั้งแต่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่ามีลักษณะการกรรโชกทรัพย์ เจ้าคุณอาชว์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร เราได้ประสานทั้ง ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง. และ บก.ป. ร่วมกันสืบสวน

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก่อนพร้อมกับสืบสวนไปด้วย คือเรื่องของการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ที่จะลุกลามบานปลาย เพราะคลิปต่างๆที่หลุดออกไปสู่ประชาชนส่งผลให้เสื่อมเสียต่อศาสนา ซึ่งทางตำรวจจะทำงานทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยเหตุผลและข้อกฎหมายด้วยพยานหลักฐาน

หลังรับข้อมูลมา 1 สัปดาห์ จะมีภาพว่ามีการไปขอเข้าพบเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ แต่วันนั้นเจ้าอาวาสหายตัวไป และไปประเทศลาว ก่อนลาสิกขา

ส่วนผู้หญิงที่กรรโชกทรัพย์ จากการตรวจสอบมีการเรียกร้องทรัพย์เจ้าคุณอาชว์ มีความสัมพันธ์เมื่อ พฆษภาคม 2567 และห่างกันไป แต่มาอ้างว่ามีลูกที่เกิดด้วยกัน ขอค่าเลี้ยงดู 7.2 ล้านบาท เดือนละ 3 หมื่น รวม 20 ปี ซึ่งเจ้าคุณไม่มีเงินจ่าย ได้ตีตัวออกห่าง เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ปกติ

จากการสืบสวนต่อ ตำรวจสืบค้นเส้นทางการเงิน และพบไปเกี่ยวข้องหลายวัด จึงบุกเข้าตรวจค้นเพื่อนำโทรศัพท์มือถือ เอกสารที่เกี่ยวข้องมา เพราะมองว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ปกติ เพราะเห็นเส้นทางการเงินผ่านมาจำนวนมาก จึงตรวจสอบย้อนหลังด้วย พบว่ามีพระที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จำนวนมาก และมีคลิปหลายคลิปและแชตไลน์ที่เรามองว่าเขาทำเพื่อกรรโชกทรัพย์ แบล็คเมล์

โดยผู้หญิงคนนี้เป็นบุคคลอันตรายตำรวจจึงต้องดำเนินการให้ได้โดยเร็ว มีการเร่งรัดพยานหลักฐานที่สุดและวันนี้จึงมีการเข้าจับกุม และพระที่ทยอยสึกจำนวนมากท่านก็รู้ตัวว่ากระทำผิดวินัยสงฆ์

ยืนยันกับประชาชนว่าตำรวจไม่มีเจตนาจะทำร้ายสถาบันพุทธศาสนา หากไม่หยุดยั้งกระบวนการนี้จะยิ่งก่อความเสียหายต่อสถาบันพระพุทธศาสนา วันนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้

พร้อมย้ำว่าไม่ว่าใครก็ตามที่กระทำความผิด จะผิดวินัย ผิดอาญาจะไม่มีข้อยกเว้น และตำรวจจะทำการสืบสวนพระทั่วประเทศ ซึ่งวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ผบ.ตร. จะมีการประชุมในเวลา 13.00 น. เพื่อนำข้อมูลที่สอบสวนไว้แล้ว หรือ ข้อมูลสำนักพุทธ หรือข้อมูลพระสงฆ์มาจัดการให้หมด แม้กระทั่งข้อมูลที่ตำรวจหรือประชาชนมี ก็มรการตั้งเพจศูนย์ทำนุบำรุงศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย เพื่อให้ศาสนิกชนทั่วประเทศแจ้บข้อมูลพระที่ประพฤติมิชอบ สอบสวนกลางจะเป็นแม่งานนี้ เชื่อว่าแรงกระเพื่อมจากคดีนี้จะเกืดการเปลี่ยนแปลง

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ยืนยันว่าสีกากอล์ฟให้ข้อมูลมาทั้งหมด และจากข้อมูลที่กำลังดูดออกมา ตำรวจไม่ได้เชื่อสีกากอล์ฟร้อยเปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าต้องมีอะไรแอบแฝงมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงต้องสืบสวนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ หากพบอะไรเพิ่มเติมก็ว่าไปตามนั้น ไม่มีลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น และหากใครรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อสีกากอล์ฟก็แจ้งมาได้ ซึ่งเชื่อว่ามีเหยื่อในลักษณะนี้อีกจำนวนหนึ่ง

พลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เผยว่า ในส่วนของ บก.ปปป. ที่ร่วมทำงานกับทีมหลังจากที่เราตรวจสอบวัดตรีทศเทพวรวิหาร เราได้ทราบข้อเท็จจริงพบว่าสีกากอล์ฟมีข้อมูลว่าเป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคเหนือที่จังหวัดพิจิตร เราจึงมาเชื่อมโยงข้อมูลกันและพบว่าสีกากอล์ฟมีแผนประทุษกรรมแบบดั้งเดิม ทำให้เราต้องหันกลับมาดูข้อมูลทางการเงิน และทำให้เราเห็นว่ามีพระจำนวนมากมีการโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ เราเริ่มแกะข้อมูลมา จนในที่สุดได้มีการเข้าไปค้นบ้านสีกากอล์ฟ โดยเหตุของการเข้าค้นมาจากการพบว่าสีกากอล์ฟรับเงินส่วนหนึ่งมาจากวัดตรีฯ โดยส่วนหนึ่งเราได้รับความร่วมมือจากสีกากอล์ฟตามที่ปรากฏเป็นข่าว และเราเห็นว่ามีพระจำนวนมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ซึ่งสามารถแยกกลุ่มพระออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่สีกายอมรับว่ามีการร่วมประเวณีและเสพเมถุนด้วยกัน 2.เป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะเชิงชู้สาว ที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในทางพระวินัยถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรง และกลุ่มที่3.เป็นกลุ่มที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่สมควร

โดยเราได้มีการลำดับความสำคัญทั้งหมด 3 กลุ่มโดยกลุ่มแรกที่จะเอาเข้าสู่กระบวนการสอบสวน คือกลุ่มที่มีเส้นทางการเงินและเสพเมถุน หลังจากนั้นเราได้เริ่มสอบสวนมีการนำข้อมูลให้พระดูในบางเรื่องที่สามารถดูได้ โดยเมื่อพระเห็นพยานหลักฐานต่างๆ ก็สมัครใจลาสิกขาตามที่เป็นข่าวไป

จนสุดท้ายจึงได้นำพยานหลักฐานเท่าที่ปรากฏเห็นชัด ซึ่งข้อเท็จจริง โดยเกิดจากวัดชูจิตฯ ที่มีข้อมูลเจ้าอาวาสนำเงินของวัดเข้าบัญชีตัวเอง และโอนให้กับสีกากอล์ฟไปจำนวนหนึ่ง และมูลเหตุข้อเท็จจริงทำให้เราสามารถขอหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และจับกุมได้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

โดยหมายจับพี่ขอศาลอนุมัติดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟแบ่งออกเป็น 2 หมายจับด้วยกัน หมายจับแรกเป็นของ บก.ปปป. มี 4 ข้อหา คือ สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐให้กระทำความผิดมาตรา 157, สนับสนุน เจ้าหน้าที่รัฐให้กระทำความผิดมาตรา 147, ผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน และรับของโจร

อีกหมายจับเป็นของ บก.ป. มี 3 ข้อหา คือ รีดทรัพย์ และข่มขืนใจผู้อื่นให้สูญเสียสิทธิเสรีภาพ มาตรา 309 ส่วนอีกหนึ่งหมายจับของ บก.ป. ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการควบคุม และสอบสวนส่วนรายละเอียดข้อหาที่มีความผิดกับบก.ป. ได้สรุปรายละเอียด

ในส่วนของ บก.ปปป. ที่ร่วมทำงานกับทีมหลังจากที่เราตรวจสอบวัดตรีทศเทพวรวิหาร เราได้ทราบข้อเท็จจริงพบว่าสีกากอล์ฟมีข้อมูลว่าเป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคเหนือที่จังหวัดพิจิตร เราจึงมาเชื่อมโยงข้อมูลกันและพบว่าสีกากอล์ฟมีแผนประทุษกรรมแบบดั้งเดิม ทำให้เราต้องหันกลับมาดูข้อมูลทางการเงิน และทำให้เราเห็นว่ามีพระจำนวนมากมีการโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ เราเริ่มแกะข้อมูลมา จนในที่สุดได้มีการเข้าไปค้นบ้านสีกากอล์ฟ โดยเหตุของการเข้าค้นมาจากการพบว่าสีกากอล์ฟรับเงินส่วนหนึ่งมาจากวัดตรีฯ โดยส่วนหนึ่งเราได้รับความร่วมมือจากสีกากอล์ฟตามที่ปรากฏเป็นข่าว และเราเห็นว่ามีพระจำนวนมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

โดยแยกกลุ่มพระออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่สีกายอมรับว่ามีการร่วมประเวณีและเสพเมถุนด้วยกัน มี 9 รูป สึกแล้วเกือบทั้งหมด เหลือ 1 รูป คือ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก โดยแต่ละรูปมีเส้นทางการเงินตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้าน

2.เป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะเชิงชู้สาว ที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในทางพระวินัยถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรง และกลุ่มที่ มี 3 รูป อยู่ระหว่างดำเนินการ

3.เป็นกลุ่มที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมไม่สมควร อยู่ระหว่างการคัดกรอง โดยหลังจากคัดกรองแล้วจะนำเข้าสู่ศูนย์บำรุงพระศาสนาเพื่อช่วยกันคัดแยกต่อไป

ซึ่งเราได้มีการลำดับความสำคัญทั้งหมด 3 กลุ่มโดยกลุ่มแรกที่จะเอาเข้าสู่กระบวนการสอบสวน คือกลุ่มที่มีเส้นทางการเงินและเสพเมถุน หลังจากนั้นเราก็เริ่มสอบสวนพระนำข้อมูลให้พระดูในบางเรื่องที่สามารถดูได้ โดยเมื่อพระก็เห็นพยานหลักฐานต่างๆ ก็สมัครใจลาสิกขาตามที่เป็นข่าวไป

โดยสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านในรอบ 3 ปี ถอนออกไปเกือบหมดเหลือ 8,000 โดยมีการนำไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นส่วนของไซเบอร์กำลังดำเนินการ โดยเบื้องต้นพบว่าสีกากอล์ฟนำเงินไปเล่นพนันสูงสุดถึง 500,000 บาท

จนสุดท้ายวันนี้เราได้นำพยานหลักฐานเท่าที่ปรากฏเห็นชัดคือ วัดชูจิตฯ ซึ่งข้อเท็จจริงเกิดจากวัดชูจิตฯ ที่เมื่อวานที่พระเจ้าอาวาสนำเงินของวัดเข้าบัญชีตัวเอง และโอนให้กับสีกากอล์ฟไปจำนวนหนึ่ง และมูลเหตุข้อเท็จจริงทำให้เราสามารถขอหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และจับกุมได้ในช่วงบ่าย

ส่วนอีกหนึ่งหมายจับของ บก.ป. ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการควบคุม และสอบสวนส่วนรายละเอียดข้อหาที่มีความผิดกับบก.ป. ได้สรุปรายละเอียด

พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ในส่วนของ บก.ป. ทำคดีที่อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรเข้าแจ้งความดำเนินคดี สีกากอล์ฟ และได้ขอศาลอนุมัติหมายจับในข้อหา

พลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ยังเปิดเผยถึงการเปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย เพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแส หากพบเห็นพระสงฆ์ประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยจะรับเรื่องราวร้องทุกข์ทุกกรณี จากนั้นก็จะนำมาคัดกรองเพื่อให้หน่วยงานที่มีมีอำนาจดำเนินการต่อ เส้นทางเป็นความผิดคดีอาญาก็จะมีหน่วยงาน 4 ป. เข้าไปดำเนินการ แต่ถ้าเป็นผิดวินัยสงฆ์ที่ไม่ใช่คดีอาญา เช่น เสพเมถุน ก็จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมหาเถรสมาคมไปดำเนินการ