พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (8)
ไชยันต์ ไชยพร
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่
1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1
2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง
3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาว
4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร
5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2
6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี
จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489
รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี” พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?
ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินข้อน้ำหนักความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตั้งฉายา “พฤฒสภา” ว่าเป็น “สภาปรีดี” โดยไล่ไปตามลำดับตัวอักษร โดยตอนที่แล้วได้กล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาจำนวน 14 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 5 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 1 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 4 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 4 ท่าน
ต่อไปคือ คุณจำลอง ดาวเรือง
คุณจำลองไม่ได้เป็นสมาชิกคณะราษฎร ก่อนหน้าที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 คุณจำลอง จำลอง ได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกใน พ.ศ. 2480 และครั้งที่สอง พ.ศ. 2481 โดยเป็นผู้แทนจังหวัดมหาสารคาม และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่ 12 ที่มีนายทวี บุณยเกตุเป็นนายกรัฐมนตรี และคณะที่ 13 ที่มีหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชเป็นนายกรัฐมนตรี คุณจำลองมีพื้นเพเป็นลูกอีสานคนมหาสารคาม ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีใจรักใฝ่รู้ใฝ่เรียน เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนแล้ว จึงได้เข้ามาศึกษาต่อด้านช่างเครื่องยนต์ ณ โรงเรียนช่างกล ในกรุงเทพมหานคร โดยได้รับการสนับสนุนจากหลวงพิศิษฐ์ศุภกร (เจ๊กหยงนี) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรถขนส่งในจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนช่างกลแล้ว จึงได้เดินทางกลับมาประกอบอาชีพโชเฟอร์ขับรถ รับส่งของและผู้โดยสารจากจังหวัดร้อยเอ็ด - สุรินทร์ ให้กับบริษัทของหลวงพิศิษฐ์ศุภกรราว ๆ 2-3 ปี โดยได้รับเงินเดือนเดือนละ 50 บาท จนกระทั่งมีเงินเก็บมากพอ เขาจึงตัดสินใจซื้อรถยนต์ขนส่งมาครอบครองและออกทำงานรับส่งด้วยตนเองได้ในที่สุด [1]
นอกจากเป็น ส.ส. มหาสารคามแล้ว คุณจำลองยังเป็นเสรีไทยสายอีสาน จากการที่ปรีดีให้ความไว้วางใจชักชวนให้คุณจำลองเข้าร่วมขบวนการเสรีไทย
เช่นเดียวกันกับคุณจินดา จินตนเสรี แม้ว่าคุณจำลองจะไม่ได้เป็นสมาชิกพฤฒสภาที่เป็นสมาชิกคณะราษฎร แต่ก็มีความสนิทสนมกับปรีดี พนมยงค์ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่าเป็น “สภาปรีดี”
ต่อไปคือ พลโท จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์
ท่านเป็นสมาชิกคณะราษฎร สายทหารบก [2] ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2476 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี (ลอย) ครั้งแรกในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 9 (วันที่ 21 ธันวาคม 2481 – 7 มีนาคม 2485) ที่มีหลวงพิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาภายใต้คณะรัฐมนตรีคณะเดียวกันนี้ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2482 และวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม พ.ศ. 2484 ต่อมาวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ภายใต้จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อมาในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 10 (7 มีนาคม 2485 – 1 สิงหาคม 2487) [3] ที่มีจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นครั้งแรก โดยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ต่อมาวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2485 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อมาในปี พ.ศ. 2487 ท่านได้เสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
ท่านได้อยู่ร่วมรัฐบาลของหลวงพิบูลฯ จนหลวงพิบูลฯ ลาออกจากนายกฯในปี พ.ศ. 2487 เมื่อหลวงพิบูลฯ ถูกกล่าวหาเป็นอาชญากรสงครามท่านก็ถูกกล่าวหาด้วย แต่พ้นคดีเพราะกฎหมายเป็นโมฆะใช้ย้อนหลังไม่ได้ จึงพ้นคดีเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี 2489 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 จนคณะรัฐประหารยึดอำนาจ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2490 เมื่อหลวงพิบูลฯ กลับมามีอำนาจทางการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลวงเสรีเริงฤทธิ์จึงได้กลับมามีตำแหน่งสำคัญแม้จะมิใช่ตำแหน่งทางการเมืองนั่นคือตำแหน่งอธิบดีกรมรถไฟ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 2492 [4]
จากข้อมูลข้างต้น การที่หลวงเสรีเริงฤทธิ์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา จึงไม่มีส่วนที่ทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”
สรุปล่าสุด คือ
สมาชิกพฤฒสภา
ปรีดี
ไม่ใช่พวกปรีดี
แนวโน้มสนับสนุนปรีดี
ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด
ม.ล. กรี เดชาติวงศ์
+
ร.อ. กำลาภ กาญจนสกุล ร.น.
+
พ.ท. ก้าน จำนงภูมิเวท
+
แก้ว สิงหะคเชนทร์
+
หลวงกาจสงคราม
+
พลเรือตรี กระแส ประวาหะนาวิน สรยุทธเสนี
+
พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต
+
เขียน กาญจพันธุ์
+
พลโท จิระ วิชิตสงคราม
+
จรูญ สืบแสง
+
จิตตะเสน ปัญจะ
+
พันโท เจือ สฤษฎิ์ราชโยธิน
+
จำรัส สุวรรณชีพ
+
จินดา จินตนเสรี
+
จำลอง ดาวเรือง
+
หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์)
+
จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 16 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 6 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 1 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 4 ท่าน
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
[1] https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3206767326038870&id=418729291509368&set=a.797398676975759
[2] ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์, “คณะราษฎร” ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475, https://pridi.or.th/th/content/2023/06/1563
[3] https://www.soc.go.th/?page_id=5772
[4] นรนิติ เศรษฐบุตร, หลวงเสรีเริงฤทธิ์, ฐานข้อมูลสถาบันพระปกเกล้า,
https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title =หลวงเสรีเริงฤทธิ์