ด่วน! ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก ที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน อุบลราชธานี
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่ากำลังพล ออกลาดตระเวนได้เหยียบกับระเบิด บริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำตัว ส่งรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และคาดว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่
“ผมขอประกาศกองทัพภาคที่2 ยกระดับการตอบโต้กัมพูชา ในวันพรุ่งนี้(24 ก.ค.)ปิด4ด่าน ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องส่ยตะกู พร้อมปิดปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย” มทภ.2 กล่าว
หลังจากก่อนหน้านี้ มีทหาร สูญเสียขาซ้ายจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยผืนแผ่นดินไทย เนื่องจากเหตุการณ์เหยียบกับระเบิด ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางของเจ้าหน้าที่ทหารไทย ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กระทั่งทำให้ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน หรือ “ชานนท์” ได้รับบาดเจ็บจนสูญเสียขาซ้าย และมีทหารบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 2 นาย
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน จากกรณีที่นาย แฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังกับระเบิดใหม่บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบกและพื้นที่อื่น ๆ เป็นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นระเบิดสังหารบุคคล ผลิตจากประเทศรัสเซีย โดยกองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิดนี้อยู่ในครอบครอง ไม่เคยมีอยู่ในสารบบ การจัดหาเข้ามาใช้ในหน่วยทหารของกองทัพไทย และไม่เคยมีการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด
2.ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Fresh News ของกัมพูชา ซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักฐานการวางระเบิดของทหารไทยนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างร้ายแรง
3.การที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบ พร้อมอ้างมาตรา 5 ของอนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ซึ่งระบุว่า “เจ้าของอธิปไตยเหนือดินแดนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” นั้น ยิ่งสะท้อนว่าทุ่นระเบิดที่พบอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย และแสดงถึงการรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ด้วยวิธีการแอบลักลอบข้ามแดนเข้ามาวางทุ่นระเบิดเอาไว้