“ธนาคารที่ดิน” ติดตามผลการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ตามนโยบายของรัฐบาล
5 สิงหาคม 2568นายกุลภัทร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการ ธนาคารที่ดิน เปิดเผยว่า ตามที่นโยบายรัฐบาล แถลงต่อรัฐสภา ในประเด็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนและส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม มุ่งเน้นที่การทำให้ประชาชนมีที่ดินทำกินและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ให้กำกับดูแลสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) นั้น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี
นายกุลภัทร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการ ธนาคารที่ดิน
ผู้อำนวยการธนาคารที่ดิน จึงมอบหมายให้นายสุทธิรักษ์ อุฒมนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองประชาสัมพันธ์ฯ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามผลการดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน ให้มีที่ทำกิน ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงในเขตปฏิรูปที่ดินและการท่องเที่ยวบ้านสันป่าเหียง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ด้าน น.ส.คะติมะ หลี่จ๊ะ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงในเขตปฏิรูปที่ดินและการท่องเที่ยวบ้านสันป่าเหียง กล่าวว่า ต้องขอบคุณ “ธนาคารที่ดิน” ปัจจุบัน วิถีชีวิตของพวกเรามีความมั่นคง ตัวอย่างเช่นช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เราแทบไม่เดือดร้อนอะไรเลย หากเปรียบเทียบหลายพื้นที่ หรือคนที่อยู่ในเมืองลำบากมาก แต่เราอยู่ได้เป็นเดือน ๆ ไม่เดือดร้อน เพราะเราแบ่งปันซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นธนาคารที่ดินจึงตอบโจทย์ของการมีที่อยู่อาศัย มีที่ดินทำกิน เพราะเป็นความมั่นคงของประเทศ ถ้าชาวบ้านหรือประชาชนมีความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน จะต่อยอดในเรื่องต่าง ๆ อีกหลาย ๆ เรื่อง สามารถพัฒนาหลายอย่างได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาไม่มีความมั่นคง ก็จะทำให้ประชาชนอ่อนแอ และประเทศชาติก็จะอ่อนแอไปด้วย
ดังนั้น การที่ประเทศจะอ่อนแอหรือเข้มแข็งจึงขึ้นอยู่กับฐานรากของประเทศ หมายความว่า ”ธนาคารที่ดิน“ ต้องอยู่ต่อไป เพื่อให้เป็นธนาคารที่ชาวบ้านพึ่งได้ ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ดอกเบี้ยต่ำ เพราะชาวบ้านถือว่าเรื่องที่ดินทำกินเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมาก เป็นฐานรากของประเทศเป็นฐานรากของประชาชน ถ้าไม่มีที่อยู่ที่มั่นคงไม่มีที่ทำกินจะไม่สามารถไปต่ออะไรได้เลยจะล้มเหลวทั้งชุมชนจะล้มเหลวกระทบกันไปหมดเลย เราจึงอยากให้มีธนาคารที่ดินเป็นที่พึ่ง
”ตอนแรก ๆ เราเครียดมากเครียดเพราะไม่รู้จะไปตรงไหน นอนไม่หลับกังวลว่าเราจะแก้ปัญหาเรื่องที่ทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างไร เราไม่เห็นตัวตนกระทั่งวันหนึ่งเรามี ‘ธนาคารที่ดิน’ ที่จะมาคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ ตอนนี้เราเห็นแสงสว่างมาก ความเครียดมันหายหมดเลย ต่อให้เรารู้ว่าไม่มีเงินซื้อที่ดินเราก็สามารถขอความช่วยเหลือจาก ‘ธนาคารที่ดิน’ ได้ มันเป็นทางออกที่ดีทำให้ชาวบ้านมีความสุขมีความหวัง และคิดต่อยอดว่าจะพัฒนาพื้นที่แห่งนี้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต อยากรักษาหมู่บ้านนี้ไว้ให้เติบโตยิ่งยิ่งขึ้นไป“ น.ส.คะติมะ กล่าว
นายสุทธิรักษ์ กล่าวว่า “ธนาคารที่ดิน” เป็นหน่วยงานรัฐ การช่วยเหลือประชาชน 8 ครัวเรือน พื้นที่กว่า 27 ไร่ อยู่ภายใต้โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน สนองนโยบายรัฐบาล มุ่งให้ประชาชน เข้าถึงสิทธิที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้น โดยให้ประชาชนมีที่ทำกิน มีกินมีใช้ รายได้ยั่งยืน