4 แนวทาง "พาณิชย์" ลดกระทบภาษีทรัมป์ เปิดศูนย์ "One Stop Service” 7 สิงหา 2568 นี้
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมแผน 4 แนวทาง บรรเทาผลกระทบภาษีทรัมป์ จ่อเอ็มโอยู พันธมิตรแบงก์-เอกชน เพิ่มงบเอสเอ็มอี ขยายแผนกระตุ้นส่งออก รวมถึงเปิดบริการ “ศูนย์ One Stop Service” 7 สิงหาคม 2568 นี้
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) อัตรา 19% แก่ประเทศไทย ทางกรมฯได้เตรียมความช่วยเหลือผลกระทบ เบื้องต้น 4 แนวทาง ได้แก่
1. หารือกับกลุ่มธนาคารผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ(ซอฟต์โลน)
2. มอบหมายสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ(ทูตพาณิชย์)ทั่วโลก หาตลาดใหม่ๆ และเก็บข้อมูลรายประเทศถึงสถานการณ์และการปรับนำเข้า ส่งออก และลงทุนกำลังเกิดขึ้นในระยะถัดไป
3. เฝ้าระวังผลกระทบ 2 ด้าน ทั้งสินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เราเสียภาษี 19% และ สินค้าสหรัฐฯ ที่ส่งมาไทยในอัตราภาษี0% ซึ่งเรื่องนี้ทีมไทยแลนด์ เตรียมรับผลกระทบจากความต้องการผลักดันสินค้าของสหรัฐฯหลายรายการมาไทย ทั้งนี้ยังคงเฝ้าระวังและเข้มงวดในสินค้าสวมสิทธิ สินค้าด้อยคุณภาพ รวมถึง Transshipment หรือสินค้าถ่ายลำสินค้า เรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นผู้ดูแล ซึ่งประเด็นสวมสิทธิเป็นเรื่องที่กังวล ต้องตระหนกและตระหนัก ซึ่งทีมเจรจาคุยกันมาตลอดและเตรียมพร้อมรับมือ และจากนี้จะมีมาตรการที่เตรียมไว้ออกมาต่อเนื่อง
4. ทบทวนและปรับระเบียบและเพิ่มเติมโครงการช่วยเหลือ ส่งเสริม และ กระตุ้นเศรษฐกิจ เริ่มด้วยวันที่ 7 สิงหาคม 2568 นี้ เปิดให้บริการ “ศูนย์ One Stop Service” ที่ศูนย์ส่งออกสินค้า ถนนรัชดาภิเษก ศูนย์รวมทุกหน่วยงานด้านให้ใบอนุญาต ให้คำปรึกษา ยื่นขอสินเชื่อ และโชว์รูมย่อยของหน่วยงานและสินค้าเด่น กำลังเร่งเพิ่มมาตรการหรือโครงการให้ความช่วยเหลือในการเปิดตลาดส่งออก
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กรมฯได้รับจัดสรรงบ 50 ล้านจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกรอบ1.15 แสนล้านบาท และกำลังรวบรวมข้อมูลความต้องการและผลกระทบจากภาคเอกชนว่าต้องการให้เพิ่มเติมอะไรอีก ก็จะรวบรวมและจัดนำแพคเกจพิเศษ เสนอ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาเห็นชอบ เพื่อเสนอเข้าครม.และบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐต่อไป
รวมถึงจะปรับเงื่อนไขของบประมาณสนับสนุนโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ที่กรมมีโครงการ "SMEs Pro-active" เดิมให้งบสนับสนุนเปิดตลาดส่งออกของเอสเอ็มอีสูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท อาจต้องปรับเพิ่ม ตามนำ้หนักของความเดือดร้อน และปรับเพิ่มโครงการอบรมให้องค์ความรู้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป หลังภาษีทรัมป์
ทั้งนี้นางสาวสุนันทา ระบุว่าได้รับมอบนโยบายจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้รวบรวมพันธมิตรและภารกิจ รวมถึงเป้าหมายการทำงาน ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดลงนามความร่วมมือ เพื่อร่วมกันผลักดันตามภารกิจตามเป้าหมาย โดยจะเร่งดำเนินการเพื่อลงนามให้เร็วที่สุด หรือไม่เกินกลางเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังมั่นใจว่าโอกาสการส่งออกของไทยในปีนี้ จะเป็นไปตามที่สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.)คาดเอาไว้ ว่าในปีนี้ (2568) ไทยส่งออกขยายตัวได้ 5-7% นั้น ด้วยเหตุผล คือ
1. ภาษีนำเข้าสินค้าไทยสหรัฐเก็บ 19% นั้น เมื่อถามผู้นำเข้าสินค้าไทยในสหรัฐฯ และ ผู้ส่งออก ระบุพอใจ และ รับได้ เพราะเป็นอัตราไม่แตกต่างกันในภูมิภาค ภาพรวมส่งออกไปสหรัฐฯปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่แข่งขันได้ยากขึ้น
2.เริ่มเห็นสัญญาณตลาดใหม่ๆเพิ่มขึ้น ดูจางานแมชชิ่งที่กรมจัดเจรจาทางธุรกิจ ระหว่าง 156 บริษัทจาก 29 ประเทศกับบริษัทไทย มีประเทศกลุ่มแอฟริกา เข้าเจรจาสูงกว่าหลายครั้งที่จัดงาน และบางประเทศไม่เคยร่วมก็มาร่วม เช่น เคนยา
3. การปรับตัวของภาคเอกชน
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำหรับกระทรวงพาณิชย์เองยังคงเป้าส่งออกปีนี้ขยายตัว 2-3 %
ขณะที่ผลกระทบการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทางกรมฯย้ำว่ามีการติดตามใกล้ชิด จากรายงานการค้าไทยกับกัมพูชาโดยรวมยังถือว่าปกติ เพียงต้องปรับเส้นทางขนส่งสินค้า ผ่านทางเรือที่แหลมฉบัง และ ส่งผ่านแดนประเทศลาว ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาต้นทุนขนส่งสูงและอาจเจอปัญหาสภาพคล่อง เบื้องต้นได้หารือกลุ่มธนาคารออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ อาทิ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ (EXIM Bank) เตรียมงบ 10,000 ล้านบาท ช่วยธุรกิจด้านขนส่ง รวมถึงช่วยเหลือผู้ส่งออกอาจขาดสภาพคล่องขนส่งหลังภาษีทรัมป์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นโยบาย"ทรัมป์" กระทบ"เที่ยวอเมริกา" นักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยลง นิวยอร์ก-LA ค้าปลีกวูบ
- รัฐบาล"ญี่ปุ่น" จ่ออัดฉีดงบครั้งใหญ่ บรรเทาผลกระทบ "ภาษีทรัมป์" คาดสูง 10 ล้านล้านเยน
- การค้า "ไทย-กัมพูชา" 6 เดือนแรกปี 2568 รวม 9.5 หมื่นล้านบาท โต 5.60% คาดเหตุปะทะทำค้าชายแดนปีนี้วูบ 1%
- "ทารกอายุมากที่สุดในโลก" ถือกำเนิดจากตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งนานกว่า 30 ปี