‘ทรัมป์’ส่งผู้แทนพิเศษไปมอสโกย้ำเส้นตายให้ยุติศึกยูเครน ขณะ‘ปูติน’ลั่นผลิตขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกจำนวนมากล็อตแรกสำเร็จ
ปูติน”ประกาศรัสเซียได้ผลิตระบบขีปนาวุธ “ออเรชนิก” ที่มีความเร็วระดับไฮเปอร์โซนิก และฝ่ายตะวันตกยังไม่มีอาวุธใดสามารถสกัดกั้นได้ ออกมาเป็นจำนวนมากล็อตแรกเสร็จสิ้น และส่งให้กองทหารของตนในยูเครนเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง “ทรัมป์” ยืนยันในวันอาทิตย์ (3 ส.ค.) จัดส่งผู้แทนพิเศษของตนไปเยือนแดนหมีขาวกลางสัปดาห์หน้า เพื่อย้ำเตือนให้ยุติสงครามก่อนถึงเส้นตายที่สหรัฐฯจะเริ่มการแซงก์ชั่นใหญ่โดยเล็งเล่นงานพวกชาติซื้อน้ำมันรัสเซียด้วย
อาร์ที สื่อทีวีและออนไลน์ของทางการรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวระหว่างแถลงสรุปปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันศุกร์ (1 ส.ค.) ว่า กระบวนการผลิตขีปนาวุธออเรชนิกจำนวนมากล็อตแรก ได้แล้วเสร็จและจัดส่งให้กองกำลังรัสเซียในยูเครนแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รัสเซียแถลงว่าได้ทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลางรุ่นใหม่ ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วยชนิดนี้ โดยใช้ยิงโจมตีโรงงานทางทหารในยูเครน ทั้งนี้ปูตินระบุก่อนหน้านี้ว่า ขีปนาวุธนี้ซึ่งทำความเร็วได้ในระดับไฮเปอร์โซนิก นั่นคือมีความเร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่าขึ้นไป ลำพังเฉพาะอานุภาพของออเรชนิกเอง ก็สามารถสร้างความเสียหายได้เทียบเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่ให้ผลต่ำ อีกทั้งยังไม่มีระบบอาวุธใดๆ ของฝ่ายตะวันตกสามารถสกัดกั้นได้
และภายหลังประสบความสำเร็จในการทดสอบภาคสนามดังกล่าว ปูตินสั่งการให้ผลิตระบบขีปนาวุธรุ่นนี้อย่างต่อเนื่อง
ผู้นำรัสเซียยังกล่าวว่า ปลายปีนี้อาจตอบได้ว่า จะจัดหาขีปนาวุธออเรชนิกให้เบลารุส ชาติเพื่อนบ้านซึ่งเป็นพันธมิตรสนิทของรัสเซีย ได้หรือไม่ และสำทับว่า ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญของทั้งสองประเทศกำลังร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ประจำการขีปนาวุธนี้
ปูตินยังประกาศว่า สำหรับการสู้รบในยูเครน กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบในทุกแนวรบ ซึ่งรวมถึงตามแนวชายแดนคือ สาธารณรัฐโดเนตสก์และลูกันสก์ ตลอดทั้งแคว้นซาโปโรซีและเคียร์ซอน พร้อมยกย่องว่า ความสำเร็จนี้มาจากความกล้าหาญและความเสียสละของทหารรัสเซีย
ประมุขวังเครมลินสำทับว่า การปลดปล่อยเมืองชาซอฟ ยาร์ ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของยูเครนในแคว้นโดเนตสก์ว่า เป็นการทวงคืนดินแดนของรัสเซีย ไม่ใช่การเข้ายึดดินแดนของต่างชาติ
ปูตินย้ำว่า มอสโกต้องการสันติภาพและยังเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่ข้อเรียกร้องสำหรับการยุติสงครามในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปีครึ่งยังคงเดิมคือ สันติภาพที่ยั่งยืนและมั่นคงบนพื้นฐานที่เป็นที่พอใจทั้งสำหรับรัสเซียและยูเครน รวมทั้งต้องมีการรับประกันความมั่นคงของทั้งสองประเทศ
นอกจากนั้น ยูเครนยังต้องยกเลิกแผนการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และยกอำนาจการควบคุม 4 แคว้นที่มอสโกยึดได้และเข้าผนวกแล้วให้มอสโก ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่เคียฟประกาศว่า ยอมรับไม่ได้
ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงยืนยันกับพวกผู้สื่อข่าวที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (3) ว่า สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของตน จะเดินทางไปรัสเซียในวันพุธ (13)หรือพฤหัสฯ (14) หน้า ก่อนถึงเส้นตายการแซงก์ชันใหญ่มอสโกปลายสัปดาห์หน้า
เมื่อถูกถามว่า วิตคอฟฟ์จะไปแจ้งเรื่องใด และมีวิธีใดบ้างที่รัสเซียสามารถทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแซงก์ชัน ทรัมป์ตอบว่า รัสเซียต้องยอมรับข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในยูเครน
ทรัมป์ยังกล่าวว่า เรือดำน้ำนิวเคลียร์สองลำของสหรัฐฯไปถึง “ภูมิภาคนั้น” แล้ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เรือดำน้ำดังกล่าวเป็นเรือดำน้ำที่เดินเครื่องโดยใช้พลังงานนิวเคลียร์ หรือเรือดำน้ำที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งไม่ได้ระบุตำแหน่งเฉพาะเจาะจงของเรือทั้งสองลำ
ทั้งนี้ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์แถลงว่าได้สั่งให้ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์สองลำไปยัง “ภูมิภาคที่เหมาะสม” หลังจากดมิตรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแดนหมีขาว ออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างอเมริกากับรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์โลกทั้งคู่ โดยที่เรื่องนี้ทำให้ทรัมป์ไม่พอใจมาก โดยมองว่าเป็นการข่มขู่
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ขู่ออกมาตรการแซงก์ชันใหม่ๆ ต่อรัสเซีย โดยเล็งไปที่มาตรการขึ้นภาษีทุติยภูมิ ซึ่งหมายถึงการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับชาติที่ยังคงซื้อน้ำมันรัสเซีย โดยที่ชาติเหล่านี้รายสำคัญๆ ก็ได้แก่ จีนและอินเดีย
แต่แม้เจอคำข่มขู่ดังกล่าว รัสเซียก็ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในยูเครนต่อเนื่อง ขณะที่ยูเครนประกาศยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อรัสเซียเพื่อตอบโต้ที่รัสเซียโจมตีดินแดนของตนหนักขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิตนับสิบ
วันอาทิตย์ยูเครนส่งโดรนโจมตีคลังน้ำมันรัสเซียในเมืองโซชิทำให้ไฟลุกไหม้
ต่อมาในวันจันทร์ (4 ส.ค.) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดโดรน 61 ลำของยูเครนตลอดคืนวันอาทิตย์ ส่วนสำนักงานกลาโหมยูเครนโพสต์บนเทเลแกรมเมื่อเช้าวันจันทร์ว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คนทางใต้ของแคว้นเคียร์ซอนจากการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของรัสเซีย
(ที่มา: เอเอฟพี/บีบีซีนิวส์)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO