ผบ.ทบ.ย้ำ ไทยมีความชอบธรรม ในการใช้มาตรการตอบโต้กัมพูชา
ผบ.ทบ. กำชับดูแลกำลังพลได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดอย่างดีที่สุด เผยผลพิสูจน์ชัดเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ย้ำฝ่ายไทยมีความชอบธรรมในการใช้มาตรการตอบโต้อย่างเหมาะสม พร้อมขอให้เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ภายหลังเกิดเหตุการณ์กำลังพลได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ระหว่างปฏิบัติลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี และจากการที่พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาชี้แจงผลการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดย นปท.3 ที่ระบุว่ามีวางทุ่นระเบิดใหม่ จำนวน 8 ทุ่น ในพื้นที่เขตแดนไทย ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่หน่วยจะรายงานข้อเท็จจริงถึงกองทัพบกและรัฐบาล เพื่อประท้วงผ่าน UN ต่อไป
พร้อมเตรียมส่งทหารเข้าตรวจพื้นที่ และเก็บกู้ตลอดแนวชายแดน ควบคู่ไปกับใช้การมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม
จากกรณีดังกล่าว พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุที่เกิดขึ้น ด้วยกำลังพลของกองทัพบกเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน โดยทันทีที่ทราบเรื่อง ได้สั่งการให้ต้นสังกัดติดตามการรักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูแลด้านสิทธิและสวัสดิการให้กำลังพลและครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันจะดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวให้ดีที่สุด โดยกองทัพบกมีความห่วงใยในความรู้สึกของครอบครัว และบุคคลใกล้ชิดของกำลังพลเสมอมา
โดย ผบ.ทบ. ยังระบุอีกว่า การลาดตระเวนของหน่วยทหารเป็นมาตรการเชิงรุกที่ได้ผลในการตรวจตราและรักษาพื้นที่แนวชายแดนไม่ให้ถูกรุกล้ำ แต่อาจต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนายตระหนักดี และพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มกำลังเพื่อภารกิจในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ
และจากการตรวจที่เกิดเหตุตามที่ปรากฏความชัดเจนแล้วว่า ทุ่นระเบิดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นทุ่นระเบิดที่มีการวางขึ้นใหม่ ข้อมูลนี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สนับสนุนความชอบธรรมของฝ่ายไทยในการดำเนินมาตรการตอบโต้ต่อฝ่ายกัมพูชา ทั้งในด้านการทหารและด้านการต่างประเทศ
กองทัพบกขอยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและเกียรติภูมิของชาติ ด้วยความรอบคอบ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสายตาสังคมโลก และไม่ตกเป็นเป้าของการบิดเบือนจากฝ่ายที่ไม่หวังดี ที่สำคัญกองทัพบกตระหนักดีว่า ประชาชนของไทยและกัมพูชาไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน มิใช่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ จึงไม่ควรปล่อยให้สถานการณ์ถูกตีความผิด จนบานปลายไปสู่ความเกลียดชังระหว่างกัน
ส่วนในเรื่องด่านฯ ผบ.ทบ. ได้ฝากเน้นย้ำว่า ในปัจจุบันฝ่ายไทยไม่ได้มีการ “ปิดด่าน” แต่อย่างใด เป็นเพียงการเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการคัดกรองบุคคล และการบริหารเวลาเข้า-ออกให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่สถานการณ์มีความละเอียดอ่อน การสื่อสารในสังคม โดยเฉพาะในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือสร้างความแตกแยกได้โดยไม่ตั้งใจ ผบ.ทบ. ขอให้สังคมเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่า ทุกคนต่างทุ่มเท เสียสละ ทำหน้าที่ในด่านหน้าแทนพวกเราทุกคน ซึ่งกำลังใจจากสังคม อาจเป็นเหมือนของขวัญอันทรงคุณค่ายิ่ง รวมถึงความสามัคคีกันของคนในชาติย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews