สรุปข่าวประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
สรุปข่าวประจำวัน ทหาร 2 ฝ่ายหยุดยิง : พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. เปิดเผยผล การประชุมหารือระหว่าง กองทัพภาคที่ 2 กับ ภูมิภาคทหารที่ 4 (ฝ่ายกัมพูชา) จัดขึ้นที่จุดผ่านแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นำโดย แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีประเด็นในการหารือ ได้แก่ การยุติการยิงโดยทันที การห้ามใช้กำลังหรืออาวุธต่อประชาชน การงดเสริมกำลังและห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในลักษณะที่อาจสร้างความเข้าใจผิด ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน พร้อมจัดตั้งชุดประสานงานระดับพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
สรุปข่าวประจำวัน
พปชร.เสนอสร้างกำแพง :
พรรคพลังประชารัฐ เสนอ 1.ยืนยันอธิปไตยของไทยในทุกตารางนิ้ว และเรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้ทางการทูตและความมั่นคงอย่างทันทีและเฉียบขาด 2.เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แถลงต่อสภาและประชาชนโดยตรง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและชี้แจงแผนรับมือสถานการณ์อย่างโปร่งใส 3.เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมตรวจสอบบทบาทของนักการเมืองที่อาจขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และ 4.เสนอให้ดำเนินการสร้างกำแพงคอนกรีตตามแนวชายแดนในจุดที่เกิดเหตุบ่อย เพื่อยกระดับการป้องกันอย่างถาวร
เลื่อนเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ :
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความเห็นให้งดการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง สส. ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 ในวันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. 2568 เพราะ สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่เกิดการปะทะ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้มีประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยภัยอื่น ๆ (ภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ) ในพื้นที่อำเภอขุนหาญและอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และได้อพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพเพื่อความปลอดภัย
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (29 ก.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ จุด เพิ่มขึ้น 44,632.99 จุด ลดลง 204.57 จุด (0.46%) แนสแดก ปิดที่ 23,308.30 จุด ลดลง 47.97 จุด (0.21%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,370.86 จุด ลดลง 18.91 จุด (0.30%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,233.68 จุด เพิ่มขึ้น 16.53 จุด (1.36%)มูลค่า 51,323.28 ล้านบาท
ทองคำลง 200 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (29 ก.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 50,950.00 บาท ขายออกบาทละ 51,050 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 49,937.04 บาท ขายออกบาทละ 51,850.00 บาท ราคาทองคำลง 200 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 27 ก.ค.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (29 ก.ค.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.6386 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.7777 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.9517 บาทต่อ 1 ยูโร, 22.2206 ต่อ 100 เยน, 4.1754 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.5332 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7800 ต่อ 1 ริกิ
ครึ่งปีหลังส่งออกเสี่ยง :
Krungthai COMPASS คาดการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ยังเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งอัตราภาษีตอบโต้ที่อาจสูงกว่าคู่แข่งโดยเปรียบเทียบ การเก็บ Sectoraltariff ในสินค้าบางกลุ่มเพิ่มเติม และยังมีโอกาสถูกเรียกเก็บภาษีสำหรับสินค้าผ่านทาง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ปัจจัยเหล่านี้จะกดดันการส่งออกของไทยให้อ่อนแรงลงได้ในระยะข้างหน้า มูลค่าส่งออกเดือน มิ.ย. เติบโต 15.5%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 18.4%YoY โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่เติบโตดี ขณะที่การส่งออกไปตลาดหลักต่างขยายตัว ด้านการนำเข้าชะลอจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 13.1%YoY ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล +1,061.7 ล้านดอลลาร์ฯ
รมว.คลัง มั่นใจภาษีทรัมป์ได้ต่ำกว่า 36% :
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ไทยพร้อมที่จะเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ ทันทีที่กลับมาเปิดโต๊ะเจรจาหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าจะเดินหน้าเจรจาเมื่อทั้งฝ่ายไทย-กัมพูชามีข้อตกลงหยุดยิง โดยฝ่ายไทยยังเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะกำหนดอัตราภาษีไทยต่ำกว่า 36% ซึ่งรองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า เป็นที่ทราบว่าสหรัฐฯ เปิดทางให้เจรจาต่อแล้ว ซึ่งทันทีที่สหรัฐฯ เปิดเราก็ติดต่อไปในทันทีเพื่อคุยต่อเนื่อง เชื่อทันตามข้อกำหนดของสหรัฐแน่นอน และจะต้องรอดูว่าสหรัฐจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้ หากจะมีการเจรจาร่วมกันก็คงเป็นการพูดคุยกันในระดับของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พร้อมระบุว่า โดยหลักการทั้งหมดแล้วไทยยังเจรจาต่อเนื่อง ซึ่งสหรัฐฯ ได้เห็นข้อเสนอและหลักการของฝ่ายไทยครบหมดแล้ว โดยได้หารือกันไปในแต่ละข้อ ซึ่งหลายข้อได้จบไปแล้ว โดยยังเหลืออีกเพียงบางข้อที่ต้องตกลงกัน
ส.อ.ท. กังวลภาษีทรัมป์ :
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า หากไทยเจรจาภาษีกับสหรัฐไม่ทันวันที่ 1 ส.ค.2568 จะทำให้สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยถึง 36% ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศคู่แข่งในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม 20% อินโดนีเซีย 19% และฟิลิปปินส์ 19% ซึ่งสะท้อนว่าไทยกำลังเสียเปรียบในเชิงการแข่งขัน
ทั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีสหรัฐเป็นคู่ค้าหลัก เช่น อาหารแปรรูป สินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ อัญมณี เหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งคาดว่ามูลค่าความเสียหายต่อการส่งออกไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี แม้ว่าไทยจะส่งข้อเสนอที่ 2 ให้กับสหรัฐแล้ว ซึ่งมีความแตกต่างจากข้อเสนอแรก โดยเฉพาะในเรื่องจำนวนรายการสินค้าที่จะลดภาษีให้เป็น 0% ซึ่งมีจำนวนหลายพันรายการ แต่ยังไม่มีการตอบกลับมา แต่ก็หวังว่าสหรัฐจะพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมใหม่ดังกล่าว หากสหรัฐใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงสุดถึง 36% สำหรับสินค้าจากไทย อาจกระทบการส่งออกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีปัญหาการสวมสิทธิ์ การส่งออกของจีนผ่านไทย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ไทยจะถูกสหรัฐใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าได้ในอนาคต
ต่างชาติผวา! ยกเลิกเที่ยวไทย :
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ภายหลังเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางเข้าไทยแล้ว 8,000 คน แต่ไม่มีการยกเลิกไฟลท์บิน ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ทำหนังสือไปยังสถานทูตประเทศต่าง ๆ รวมถึงสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในต่างประเทศ ให้ช่วยทำหนังสือชี้แจงนานาชาติว่าจุดที่ทหารไทย-กัมพูชาปะทะกันนั้น ไม่ได้เป็นสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยว ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า พยายามจะทำให้ได้ตามเป้าหมาย โดยยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้ และคงตั้งเป้าไว้เหมือนเดิมที่ 38 ล้านคน
ทรัมป์ออกโรง :
ตอนนี้มีความพยายามจะวิเคราะห์ว่า เหตุใดประธานาธิบดีสหรัฐ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงได้กระโดดขึ้นมาเป็นตัวกลาง ในการเจรจาปัญหาความขัดแย้งชายแดนประเทศไทยและกัมพูชา
เพราะแอ๊คชั่นของทรัมป์ ไม่ใช่เพียงแค่ให้ตัวแทนระดับรัฐมนตรี หรือทูตดำเนินการ แต่ทำด้วยตัวเอง โดยนอกจากจะโทรหารักษาการนายกฯของประเทศไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แล้ว ยังโทรหาผู้นำของกัมพูชานายฮุน มาเนต ด้วยตัวเอง
ภายหลังการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่าน x โดยยกตัวเองเป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ
จึงมีใครหลายคนมองว่า แอ๊คชั่นของทรัมป์ ครั้งนี้น่าจะต้องการได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ อย่างแน่นอน
เกาหลีใต้ลุยแคมเปญเลิกเหยียดแรงงานต่างชาติ :
หลายพื้นที่ทางภาคใต้ของเกาหลีใต้กำลังรณรงค์เรียกแรงงานต่างชาติด้วยชื่อจริง แทนการใช้คำที่ไม่สุภาพ เช่น “เฮ้ย” เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมที่เคารพและยอมรับความหลากหลายทางเชื้อชาติในสังคม แคมเปญนี้ริเริ่มโดยศูนย์คุ้มครองลูกจ้างชั่วคราวจังหวัดชอลลาใต้ (JCWC) ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน โดยนับตั้งแต่ปี 2567 ทาง JCWC ได้จับมือกับบริษัทและองค์กรท้องถิ่นเพื่อรณรงค์ให้ผู้ว่าจ้างและแรงงานชาวเกาหลีเรียกชื่อแรงงานต่างชาติอย่างถูกต้องและเป็นมิตร เช่น การติดป้ายชื่อบนหมวกนิรภัย เพื่อให้ทุกคนสามารถเรียกชื่อกันได้ง่ายขึ้น ทาง JCWC ระบุว่า การเรียกชื่อจริงเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เคารพกัน ซึ่งจะช่วยให้แรงงานต่างชาติรู้สึกได้รับการยอมรับและยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงานด้วย
ยอดผู้ป่วยโรคไอกรนในญี่ปุ่นทะลุ :
สถาบันความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยในวานนี้ (29 ก.ค.) ว่า จำนวนผู้ป่วยโรคไอกรนในญี่ปุ่นในปีนี้ทะลุ 50,000 รายแล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีข้อมูลนี้ในปี 2561 ข้อมูลเบื้องต้นเผยให้เห็นว่า จำนวนผู้ป่วยตามโรงพยาบาลและคลินิกทั่วประเทศในช่วงวันที่ 14-20 ก.ค. อยู่ที่ 3,908 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 52,490 ราย สูงกว่าสถิติเดิมที่ 16,845 รายในปี 2562 ทั้งนี้ โรคไอกรน มีอาการเริ่มต้นคล้ายหวัดแล้วจึงค่อย ๆ พัฒนาเป็นอาการไออย่างรุนแรง โดยเด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวมและสมองอักเสบ ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้
จีนยังเตือนรับมือพายุฝน :
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีนยังคงประกาศเตือนในวานนี้ (29 ก.ค.) ถึงภัยพายุฝน ระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดอันดับสองในระบบเตือนภัยแบบแบ่งสี่ระดับ โดยคำเตือนนี้ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หลายภูมิภาคทั่วจีน ทั้งปักกิ่ง เทียนจิน เหอเป่ย มองโกเลียใน เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง ซานตง เจียงซู เซี่ยงไฮ้ เจ้อเจียง ฝูเจี้ยน กว่างตง กว่างซี และเกาะไต้หวัน จะเผชิญฝนตกหนักในช่วงวันอังคาร-วันพุธ (29-30 ก.ค.) โดยบางภูมิภาคอาจมีปริมาณน้ำฝนในช่วง 24 ชั่วโมงสูงถึง 300 มิลลิเมตร ทั้งนี้ ทางการท้องถิ่นควรเตรียมมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉิน และเฝ้าระวังภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ เช่น น้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม
ส่องเลขขันน้ำมนต์ :
ทำเอาหลายคนแห่ส่องเลข! สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาวอารมณ์ดี ฮาย อาภาพร ที่ล่าสุดได้จัดพิธี ทำบุญวันเกิด อย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นที่บ้าน โดยได้นิมนต์พระมาประกอบพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต แต่ที่ทำเอาโซเชียลตาลุกวาวไม่แพ้กันก็คือ ภาพเลขขันน้ำมนต์ ที่เจ้าตัวโพสต์ลงอินสตาแกรม พร้อมแคปชั่นว่า "ทำบุญวันเกิด รับบุญร่วมกันนะคะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
ช่วยพี่น้องชาวไทย :
ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจที่ขอสนับสนุนเรื่องแรงทรัพย์ สำหรับนางเอกสาว ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ถึงสถานการณ์บ้านเมืองต่างๆ ในช่วงเวลานี้ ล่าสุด แม่ปลา คุณแม่ของ ญาญ่า อุรัสยา ได้เผยสลิปการโอนเงินโดยตรงจากลูกสาวบริจาคให้กับ 2 ที่ใหญ่ๆ ได้แก่ โรงพยาบาลน่าน จำนวน 400,000 บาท และ มูลนิธิองค์กรทำดี ของ บุ๋ม ปนัดดา จำนวน 100,000 บาท เพื่อส่งความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมน่าน และผู้อพยพจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา งานนี้แฟนๆ ต่างเข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญกับ ญาญ่า และครอบครัว กันอย่างรัวๆ
ทะลุเป้า :
ทัพเยาวชนเทควันโดพุมเซ่ไทยโชว์ฟอร์มเยี่ยม กวาดมาได้ 1 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง จากการแข่งขันทั้งหมด 7 รุ่น โดยเหรียญเงินมาจากทีมชายที่ฟอร์มแรงทะลุเข้าชิงกับเกาหลีใต้ ก่อนพ่ายไปอย่างหวุดหวิด ส่วนอีก 4 เหรียญทองแดงมาจากผลงานในรุ่นชายเดี่ยว, ฟรีสไตล์ชายเดี่ยว, ฟรีสไตล์คู่ผสม และฟรีสไตล์ทีมผสม
หนุนกองทัพไทย :
สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ร่วมกันสนับสนุนภารกิจทหารไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุน และน้ำมันฉีดทำความสะอาด หล่อลื่นอาวุธปืน เพื่อสนับสนุนทหารไทยในการปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งต้องเผชิญกับสภาพอากาศฝนตกเกือบตลอด จนอาจทำให้อาวุธประจำกายทำงานติดขัด
เลื่อนแข่งขัน :
ไมตรี คงเรือง นายกสมาคมกีฬาคนพิการฯ ยืนยันเลื่อนการแข่งขันกีฬาคนพิการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2568 ที่ศรีสะเกษ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่นิ่ง แม้ยังคงยึดจังหวัดเดิมเป็นเจ้าภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทหารไทย-กัมพูชา เห็นชอบ “หยุดยิง” 3 พื้นที่ ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง