“ฮุน เซน” แจกสูตรฝ่าวิกฤต แนะประชาชนปลูกพืช-ขุดหลุมรอฝน หรือรอไทยเปลี่ยนผู้นำ?

วันที่ 26 มิ.ย.68 ‘สมเด็จฯ ฮุน เซน’ ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ถึงกาาลงพื้นที่พบปะสมาชิกสภาตำบล-แขวง อำเภอ-เมือง จังหวัดอุดรมีชัย

ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี หลังจากที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเตโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในเขตทิศที่ 2 และทิศที่ 3 ณ กองบัญชาการเบาทิศที่ 3 ในเมืองสำโรง จังหวัดอุดรมีชัยแล้ว สมเด็จเตโชได้เดินทางต่อเพื่อพบปะและสนทนากับสมาชิกสภาตำบล-แขวง อำเภอ-เมือง จังหวัดอุดรมีชัย จำนวน 248 คน

หลังจากที่ได้รับรายงานจาก ฯพณฯ มีน จันยาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัยแล้ว สมเด็จเตโช ฮุน เซน ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาตำบล-แขวง อำเภอ-เมือง และจังหวัด ที่ได้เข้าร่วมในการเลือกตั้งที่ผ่านมา สมเด็จเตโชกล่าวว่า สมาชิกสภาทั้งหมดเกิดจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งคือประชาชน โดยได้แนะนำให้สภาทำงานร่วมกับประชาชนเพื่อให้ประชาชนยังคงให้การสนับสนุนด้วยการลงคะแนนเลือกตั้งต่อไป สมเด็จเตโชเน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่คือผู้รับใช้ประชาชน จึงต้องการให้สมาชิกสภาสร้างความใกล้ชิดกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคือประชาชน และให้บริการประชาชนอย่างดี สมเด็จเตโช ยังได้ชื่นชมความพยายามของหน่วยงานระดับท้องถิ่นที่ทุ่มเทเพื่อประชาชนในช่วงที่ผ่านมา

และในโอกาสนี้ สมเด็จเตโชได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงสมาชิกสภาทุกระดับในจังหวัด เกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย โดยระบุว่า สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยได้นำไปสู่ความขัดแย้งกับกัมพูชา อย่างไรก็ตาม สมเด็จเตโชมองว่า วิกฤตนี้ได้กลายเป็นโอกาส

สมเด็จเตโช ได้แนะนำให้สภาส่งเสริมให้ประชาชนปลูกพืชผลทางการเกษตร เพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส สนับสนุนการผลิตภายในจังหวัด เพื่อจัดหาให้เพียงพอภายในจังหวัด โดยกองทัพ ตำรวจ และประชาชนควรร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกเพื่อสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ และจากการประเมิน สมเด็จเตโชเห็นว่า กองกำลังติดอาวุธสามารถตอบสนองความต้องการในระยะยาวได้

สมเด็จเตโชย้ำว่า ประเทศกัมพูชากำลังเผชิญกับความขัดแย้งกับไทย หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำในกรุงเทพฯ อาจนำไปสู่สงครามที่ยืดเยื้อ ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ในปี ค.ศ. 2011 สมเด็จเตโชแนะนำให้ประชาชนขุดหลุมหลบภัยเพื่อป้องกันตัวเอง และไม่ลืมที่จะทำการเกษตรต่อไป แม้ว่าสถานการณ์จะเกิดขึ้นที่ชายแดน ขณะนี้ฤดูฝนได้มาถึงแล้ว

นอกจากนี้ ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในสังคม สมเด็จเตโชกล่าวว่า นโยบายหมู่บ้าน-ตำบล-แขวงที่ปลอดภัยต้องดำเนินการต่อไป เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่ง และผู้นำที่มีประสิทธิภาพคือสมาชิกสภาตำบล-แขวง ซึ่งต้องมีส่วนร่วมในการจัดการความมั่นคงของสังคม ปัญหายาเสพติดและการพนันต้องถูกกำจัดอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะยาเสพติดซึ่งเป็นความกังวลทั้งในระดับรวมและระดับครอบครัว

เกี่ยวกับการปิดชายแดนโดยพลการของไทย สมเด็จเตโช ระบุว่า ไทยปิดชายแดนด้วยตัวเอง และเมื่อผลไม้เสียหาย ก็มาขอเจรจา การปิดชายแดนของไทยเปรียบเสมือนการปิดกั้นตัวเอง ซึ่งปัจจุบันไทยมีปัญหากับชายแดนที่ติดกับเมียนมา ลาว และมาเลเซียด้วย สมเด็จเตโชกล่าวว่า สำหรับกัมพูชา ต้องการให้ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นชายแดนแห่งมิตรภาพ สันติภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา