ส่อง “4 ตัวกลาง” หย่าศึกเขมร – ไทยหยุดยิง?
ยังไม่ทันขาดคำ “ฮุนมาเนต”นายกเขมร ที่โพสFB ว่าประสงค์จะจบศึกด้วยการเจรจา “หยุดยิง”กับไทย โดยให้ รมต.ต่างประเทศไปดำเนินการ หลังได้คุยกับทั้ง “อันวาร์”ประธานอาเซียน และ “ประธานาธิบดีสหรัฐ” ที่ “ส่งสัญญาน” ผ่านทวิตX อ่างว่าคุยกับทั้ง “ภูมิธรรม”และ “ฮุนมาเนต”แล้วพร้อม“หยุดยิง”เพื่อเจรจา
โดยยกเรื่อง “ภาษีทรัมป์”มาขู่ 2 ประเทศหากไม่สงบศึกจะสหรัฐจะไม่เจรจาด้วย เช่นเดียวกับ“องค์การสหประชาชาติ(UN)ที่แถลงการณ์(26ก.ค.)เรียกร้องให้2ประเทศหยุดยิงทันทีโดยมีการประณามการโจมตี ประชาชนผู้บริสุทธิ์ชาวไทยจากกองทัพเขมร หลังจากที่ค่ำวันศุกร์ของไทย(25ก.ค.) มีการประชุม UNSCR ที่ทั้งไทย-เขมร ต่างเข้ามาชี้แจงที่ไทยยืนยันเขมรเปิดก่อนและทำผิดทั้ง อนุสัญญาออตตาวา และ สนธิสัญญาเจนีวา เข่นฆ่าประชาชนคนไทยเด็กเล็กผู้บริสุทธิ์และถล่มโรงเรียนโรงพยาบาล ขาดแต่เพียง “จีน”ที่ถือเป็น “พี่ใหญ่”ประเทศอาเซียนที่ยังไม่เข้ามาแทรกแซงชัดเจนนอกจากแสดงความเป็นห่วง และยืนยันไม่ได้หนุนอาวุธให้เขมร
พลันวันนี้(27ก.ค.)“ทหารเขมร”ก็ เปิดก่อน อีกแล้ว ช่วงเช้ามืด04:00น. โดย ยิงปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่ ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และยังยิงเข้ามาในเขตช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อพยายามจะยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์คืนหลังจากที่ทหารไทยเข้ายึดได้ ทำให้ทหารไทยต้องใช้ปืนใหญ่พิสัย ไกลยิงตอบโต้ไปยังเป้าหมายของปืนใหญ่และเครื่องยิงจรวดฝ่ายกัมพูชา เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังคงปะทะกันต่อไป “พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์” รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการคุยระหว่าง “ทรัมป์”กับ “ภูมิธรรม”และ “ฮุนมาเนต” ที่มีข้อเสนอให้ทั้งสองประเทศหยุดยิงทันที และหันมาเจรจาทวิภาคีเป็นการด่วน โดยยกการเจรจาการค้ามาเป็นเงื่อนไขว่า ทหารในสมรภูมิยังยืนยัน ทำตามยุทธวิธี จะมีการหยุดยิง เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายมาขอเจรจาเท่านั้น
หลังจากที่ก่อนหน้านี้(26ก.ค.) กระทรวงต่างประเทศไทย ก็ประกาศจุดยืน ปฏิเสธการไกล่เกลี่ยจาก ประเทศที่สาม โดยโฆษกกระทรวงฯ ยืนยันว่า ไทยต้องการแก้ปัญหาผ่าน "กลไกทวิภาคี" เท่านั้น แต่กัมพูชาต้องยุติความรุนแรงตามแนวชายแดนก่อน แม้สหรัฐฯ จีน และมาเลเซีย (ประธานอาเซียน) จะเสนอตัวช่วยเจรจา โดยความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับไทย และจังหวะระหว่างการปะทะของทั้งสองฝ่าย ถูกวิเคราะห์จากหลายฝ่ายด้านความมั่นคงทั้งมุม “ความได้เปรียบ-เสียเปรียบ”หากหยุดยิงที่จะเข้าอีหรอบเดิม ครั้ง ปี 2554 ที่ไทยต้องเสีย “เขาพระวิหาร”ไป
และทั้งในมุมของ “ฝ่ายชาตินิยม”ที่ต้องการให้ “ทหาร” ใช้การรบที่ได้เปรียบทางอาวุธ ไล่ทุบยึดคืนแผ่นดินที่เสียไปจากการได้คืบเอาศอกของเขมรที่ผ่านมาภายใต้ “ฮุนเซน”ผู้พ่อ กลับมาทั้งหมดก่อนค่อยเปิดโต๊ะ“เจรจา”ตัวต่อตัวกับ “ฮุนมาเนต”ผู้ลูก
กระนั้นก็ยังน่าสนใจไปสแกน“ตัวละคร”ระดับองค์กร และประเทศที่3 ระดับมหาอำนาจ จาก “วงนอก” บทบาทและความเคลื่อนไหว ที่ถูกจับตา จะมีบทบาทเป็น “ตัวกลาง”นำไปสู่การระงับข้อพิพาทที่กำลังลุกลาม เป็นสงคราม 2 ประเทศ เขมร-ไทย หลังจากนี้ ไล่ตั้งแต่ สหรัฐ โดย “โดนัล ทรัมป์”ที่ปรากฎบทบาทเรื่องนี้ ครั้งแรก ผ่านทวิตXของเขา แบบ “ทุบโต๊ะ”สั่งใหไทยเขมรหยุดยิงหากไม่หยุดสหรัฐจะไม่คุยด้วยเรื่อง “ภาษีทรัมป์”แต่ก็ดูจะไม่ได้ผล
ถัดมาเป็น “จีน”ที่ยังไม่ปรากฏท่าทีชัดเจนใดๆจากผู้นำจีน “สีจิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน นอกจากการแสดงความกังวลและการเตือนพลเมืองก่อนหน้านี้ ทั้งๆที่จีนถูกมอง ว่ามีใกล้ชิดฐานะ “พี่ใหญ่”ในภูมิภาค มีผลประโยชน์กับทั้งไทยและเขมร และอาเซียนทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงมากกว่าสหรัฐฯ
ถัดมาเป็น “สหประชาชาติ”หรือUN โดย อังตอนียู กูแตรึช เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ(UN)กับบทบาทเรื่องนี้ ผ่าน UNSCR เมื่อวันก่อน(25ก.ค.)ที่นักวิชาการความมั่นคงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายคน วิเคราะห์ว่าเขมรเจตนาต้องการสร้างแรงกดดันเชิงสัญลักษณ์ แต่ศึกเขมรไทยยังไม่เป็นประเด็นสำคัญเท่าสงครามที่รุนแรงเท่าโซนตะวันออกกลาง สำหรับ UNSC ที่ก็ไม่ได้มีมติอะไรหลังการชี้แจงของไทย-เขมรขณะที่แถลงการณ์ของUN2ครั้งในเรื่องนี้ ก็ถูกมองแบบไม่แน่ใจว่าว่าจะสามารถลดความตึงเครียดของสถานการณ์ได้
ถัดมาที่ “อันวาร์ อิบราฮิม”ประธานอาเซียน ที่ปรากฏความพยายาม ที่จะช่วยประสานการเจรจา 2 ประเทศ ถึง 2 ครั้ง คือ 6 มิ.ย.ที่เขาเรียกร้องให้ 2 ประเทศอดทนอดกลั้นใช้แนวสันติวิธี ถัดมา 24ก.ค.ที่เขาระบุว่าได้คุยกับทั้ง “ฮุนมาเนต” และ “ภูมิธรรม”เรียกร้องให้หยุดยิงทันทีเพื่อเปิดเจรจาทางการฑูตยุติด้วยสันติวิธี รวมถึงมีส่วนที่เชื่อมประสานไปสู่ “ตัวกลางอื่นๆ”อย่าง สหรัฐ อย่างที่ “ทรัมป์”มีการพูดถึงผ่านทวิตXของเขา แต่ก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่ เพราะทหารยัง “เปิดฉากยิง”ต่อและไทยก็ต้องตอบโต้ต่อไป โดย “อันวาร์”ยังถูกมองเชิงความสัมพันธ์ กับ “ทักษิณ”พ่อของ “นายกไทย” ที่”อันวาร์”ตั้ง”ทักษิณ”เป็นที่ปรึกษา เช่นเดียวกับที่ “ฮุนเซน “ก็เคยตั้ง “ทักษิณ”เป็นที่ปรึกษา แม้หลายฝ่ายจะมองแบบ คาดหวังในตัว”อันวาร์”ที่จะใช้ เวทีอาเซียนเคลียร์เรื่องนี้ เพราะเวทีนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับทางออกของไทย-เขมร ที่เป็นประเทศสมาชิก.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews