'เอกภาพ'พร้อม'เอกรัฐ'ร่วมงานโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ที่อ.โพธ์ชัย
วันที่ 27 ก.ค. 2568 เวลา 10.00 น.ดร.เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายเอกรัฐ พลซื่อ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโค โครงการธนาคารโคกระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ จำนวน 50 ตัว โดยการดำเนินงานของ นายอำนาจ มะธิปิไข ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ดและคณะหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดร้อยเอ็ด ปศุสัตว์อำเภอโพธิ์ชัย หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องเกษตรกรอำเภอโพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ณ เทศบาลตำบลเชียงใหม่ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด
ซึ่งนายอำนาจ มะธิปิไข ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้กรมปศุสัตว์จัดตั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงาน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและเพื่อให้มีโค-กระบือเป็นของตนเอง โดยวิธีให้ยืมเพื่อการผลิต
ในปัจจุบันโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว เฉพาะในพื้นที่อำเภอโพธิ์ชัย จำนวนกว่า 618 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2568นี้ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว จำนวน 182 ครอบครัว คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,234,000 บาท ที่สามารถเพิ่ม GPP ให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยในวันนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอโพธิ์ชัย ได้จัดพิธีมอบโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ให้แก่พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ตำบลเชียงใหม่ ตำบลอัคคะคำ ตำบลขามเปี้ย ตำบลหนองตาไก้และตำบลคำพอุง อำเภอโพธิ์ชัย จำนวน 50 ราย โค จำนวน 50 ตัว ซึ่งในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการครั้งที่ 6
ด้าน ดร.เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเปิดว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดี กับพี่น้องชาวอำเภอโพธิ์ชัย ที่ได้เข้าร่วมโครงการดีๆเช่นนี้ เป็นโครงการในพระราชดำริ ให้กรมปศุสัตว์จัดตั้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีโค-กระบือเป็นทรัพย์สินของตนเอง ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร มูลโค-กระบือจะช่วยในการฟื้นฟูทรัพยากรดิน และสามารถจำหน่ายเป็นรายได้ทางหนึ่ง จากโค จำนวน 50 ตัว หากประเมินราคาตัวละ 29,000 บาท คิดเป็นมูลค่า รวมกว่า 1,350,000 บาท จึงถือว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้เป็นอย่างดี จึงขอให้ดูแลโค ที่ยืมไปให้ดี ห้ามซื้อ-ขาย ภายในระยะเวลา 5 ปี เมื่อครบกำหนดทางราชการ จะทำหนังสือมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ และเป็นทรัพย์สินส่วนตัว