ทรงพระเจริญ
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นพระราชวงศ์ผู้ทรงพระอัจฉริยภาพและเปี่ยมด้วยพระเมตตา พระองค์ทรงมุ่งมั่นและอุทิศพระองค์เพื่อการพัฒนาประเทศชาติในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการสาธารณสุข พระราชกรณียกิจของพระองค์ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงพระปรีชาสามารถในด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความตั้งพระทัยในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยทรงมีพระปรีชาสามารถในสาขาวิชาเคมี ซึ่งถือเป็นหลักฐานแห่งพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ ทรงทุ่มเทพระวรกายในการศึกษาและวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศและสังคมได้อย่างยั่งยืน
พระองค์ยังทรงเป็นประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการแพทย์และการวิจัย โดยมีโครงการสำคัญต่างๆ ในพระอุปถัมภ์ เช่น โครงการรักษาผู้ป่วยโรคลมชักครบวงจร และโครงการหารายได้เพื่อสัตว์ป่วยอนาถา เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมทั้งยังทรงพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีความสามารถและประสิทธิภาพในการให้บริการ
พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างเท่าเทียม โดยทรงโปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานออกหน่วยร่วมกับหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) เพื่อให้บริการด้านการตรวจรักษาแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและยากจน พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสถาบันการแพทย์แห่งใหม่ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลและการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากพระราชกรณียกิจในด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์แล้ว พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นในการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน พระองค์ทรงสนับสนุนการศึกษาและการพัฒนาศาสนา รวมถึงการดูแลและรักษาสัตว์ป่วยอนาถา ซึ่งสะท้อนถึงพระเมตตาและพระกรุณาที่ทรงมีต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
พระราชกรณียกิจเหล่านี้ของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการสาธารณสุข แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยและการอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนไทย พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของผู้นำที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศ และยังคงเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทยในทุกยุคสมัย
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน