24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2568

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2568

>> พบร่างแล้ว ‘ร.ต.ท.’ พายเรือไล่จับผู้ต้องหา ก่อนเรือคว่ำจมน้ำหาย

06.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเลย เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ แล้วเกิดเรือล่ม ทำให้ ร.ต.ท.เริงศักดิ์ รองสารวัตร (ป้องกันปราบปราม) สภ.เมืองเลย จมน้ำสูญหายไป

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการและอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิ สมาคม และองค์กรเอกชน ได้ร่วมกันค้นหาที่บริเวณฝายหินทิ้งบ้านโพนไทร ต.เมือง อ.เมืองเลย นานกว่า 28 ชั่วโมง ยังไม่พบผู้สูญหาย

ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้พบร่างของ ร.ต.ท.เริงศักดิ์ หรือ หมวดเขียว แล้ว หลังจากใช้เรือขับตรวจสอบ โดยลอยมาติดเกาะกลางแม่น้ำเลย บริเวณท้ายวัดศรีทัศน์ บ้านปากภู ต.เมือง อ.เมืองเลย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1.5 กิโลเมตร

>> ปะทะเดือด วิสามัญ 2 ศพ ใกล้ป่าช้าติดชายแดน ยึดกระสอบบรรจุยาเสพติด 32 ใบ มีทั้งยาบ้าและไอซ์

07.15 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังผาเมือง โดยกองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก และชุดปฏิบัติการ นปพ.ร่วม ไปลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน เพื่อป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติด แล้วไปพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวน 25-30 คน กำลังช่วยกันขนกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลังจำนวนมาก จากป่าข้างทางมาขึ้นรถกระบะ อีซูซุ สีบอร์นเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน จ.ลำพูน

ทันทีที่เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณแสดงตนเพื่อตรวจค้นจับกุม กองกำลังติดอาวุธที่ทำหน้าที่คุ้มกันคาราวานลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี จึงเกิดการปะทะตอบโต้กันนานประมาณ 10 นาที หลังเสียงปืนสงบพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัย ทางหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตากจึงส่งกำลังเสริมเข้าไปในพื้นที่เพื่อวางกำลังควบคุมพื้นที่เอาไว้ก่อน

กระทั่งเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเข้าตรวจพิสูจน์พื้นที่โดยรอบบริเวณจุดปะทะ พบกระสอบดัดแปลงเป้นเป้สะพายหลังอยู่ในรถกระบะ และอยู่ในป่าข้างทางบริเวณใกล้เคียงนับได้รวม 32 เป้ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พบศพกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดเสียชีวิตอยู่ 2 ศพ ส่วนคนอื่นคาดว่าได้ล่าถอยกลับเข้าไปในเขตประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นยังตรวจพบอาวุธปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก ระเบิดแบบขว้างจำนวน 1 ลูก วิทยุสื่อสารจำนวน 2 เครื่อง รวมทั้้งยังพบปลอกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ในจุดปะทะอีกจำนวนหนึ่ง

ต่อมา พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก อนุวัช ปัญญานันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและยาเสพติดของกลาง พบว่าใน 32 เป้นั้น ข้างในเป็นยาบ้า 30 ใบ นับได้รวมประมาณ 6 ล้านเม็ด และไอซ์ 2 ใบ น้ำหนักรวมประมาณ 64 กิโลกรัม หลังจากตรวจสอบแล้วได้ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง ไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย

>> ตร.ไซเบอร์บุกทลาย 2 เครือข่าย จับกุมเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์

09.00 น. ตำรวจไซเบอร์ และตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนตรวจวิเคราะห์ฯ (ศปอส.ตร.) เปิดปฏิบัติการค้นสองจุดทลายเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการเกี่ยวกับการเล่นพนันออนไลน์ อาทิ เกมสล๊อต,ยิงปลา, เกมไพ่ ,บาคาร่า, ไฮโล, ป๊อกเด้ง, เสือ-มังกร, คาสิโน Live ,หวย พนันกีฬา โดยให้ผู้เล่นโอนเงินเพื่อเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบบัญชีธนาคารในประเทศ รูปแบบอัตโนมัติ แจ้งถอนเงินผ่านระบบออนไลน์โดยตรง

จากการตรวจค้นจุดแรก พื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายกอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี และ นายมอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี พร้อมตรวจยึด คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ สอบสวนนายกอ ให้การยอมรับว่าได้เป็นเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งเพิ่งเปิดได้เพียงกว่า 2 เดือน มีสมาชิกกว่า 2,900 ราย ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 280,000 บาทต่อเดือน ส่วนนายมอ ให้การยอมรับว่าเป็นแอดมินคอยทำหน้าที่ถามตอบลูกค้าให้กับเว็บพนัน ซึ่งเปิดมานานกว่า 4 เดือน มียอดสมาชิกผู้เล่นกว่า 53,000 ราย มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 1.8 ล้านบาทต่อเดือน

ต่อมาเจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผล ไปตรวจค้นที่บ้านพักใกล้เคียงจุดแรก จับกุมนายณอ(นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ตรวจยึดโน๊ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สอบสวนนายณอ ให้การยอมรับว่า เคยทำงานเป็นแอดมินให้กับเว็บพนันอื่นมาก่อนนานหลายปี จนมีความชำนาญเรื่องทำธุรกิจเว็บพนัน ก่อนจะผันตัวเป็นเจ้าของเว็บ โดยซื้อระบบเว็บไซต์ มาทำเองได้กว่า 4 เดือน ก่อนถูกจับกุม

โดยตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> เมืองนนท์เอาจริง กวาดล้างแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย

10.00 น. นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มอบหมายให้ นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฯ ลงพื้นที่จับกุมแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทยในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี

โดยผลการปิดล้อมตรวจค้นภายในซอยสามัคคีและซอยธารสำฤทธิ์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี สามารถจับกุมต่างด้าวที่มากระทำความผิดประกอบอาชีพแย่งอาชีพคนไทยทั้งหมด จำนวน 23 คน แบ่งเป็น สัญชาติ กัมพูชา 16 คน เมียนมาร์ 1 คน อินเดีย 6 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ไม่มีใบอนุญาตทำงาน 16 คน (เป็นกัมพูชา 9 คน อินเดีย 6 คน เมียนมาร์ 1 คน) ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต 7 คน เป็นกัมพูชาทั้ง 7 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ตาม มาตรา 8 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ต่อไป

>> ตำรวจนนท์จับลูกทรพี ทำร้ายร่างกายพ่อ จนสมองบวมเสียชีวิต เจ้าตัวยอมรับสารภาพ อ้างเป็นการป้องกันตัว

11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี ชาย อายุ 62 ปี อดีตพระเอกลิเก ถูกนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ลูกชาย ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับ โดยเหตุเกิดวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่บ้านชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ล่าสุด พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมกำลังสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหา ทำร้ายร่างกายบุพการีเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย สามารถจับกุมตัวได้ที่ บริษัท รปภ.แห่งหนึ่ง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่โรงพัก

นายเอ (นามสมมุติ) ให้การยอมรับสารภาพ โดยอ้างว่า ทำร้ายร่างกายพ่อจริง แต่เป็นการป้องกันตัว วันเกิดเหตุตนซื้อเบียร์ มา 2 กระป๋อง นำไปแช่ในตู้เย็นแล้วนำมาดื่ม 1 กระป๋อง จนหมดและจะไปหยิบอีกกระป๋องที่เหลือมาดื่ม แต่ปรากฎว่าเบียร์หายไป ตนได้ถามพ่อที่นั่งกินข้าวอยู่ แต่พ่อได้โวยวายจนเกิดโต้งเถียงกันและชกต่อยกัน หลังเกิดเหตุตนเห็นพ่อเลือดไหล ตนจึงโทรศัพท์เรียกรถกู้ภัยมารับพ่อไปส่งโรงพยาบาล ส่วนตนได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป สาเหตุที่ทำร้ายพ่อเพราะต้องการป้องกันตัว ตนถูกพ่อชกต่อยทำร้ายก่อน ไม่คิดว่าจะทำให้พ่อเสียชีวิต พอทราบข่าวตนได้สำนึกผิด จึงได้มาที่บริษัท รปภ.ที่ตนทำงานอยู่เพื่อให้ทางบริษัท ประสานตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี

หลังสอบสวนได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินตดีตามกฎหมาย

>> รมต.คลัง ประเดิมภารกิจแรก พบหอการค้าสหรัฐฯ สร้างความเชื่อมั่นการลงทุนไทย

12.00 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงภารกิจแรกในสหรัฐฯ ระบุว่า ได้พบกับหอการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา และคณะผู้แทนระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

การพบปะครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะในประเด็นสถานการณ์การค้าการลงทุนภายใต้นโยบายภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงการหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ภาคธุรกิจเผชิญ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ทำให้ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากขึ้น

"ผมได้เน้นย้ำว่า ไทยยังคงเดินหน้าเต็มที่ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยมุ่งหวังข้อตกลงที่ "win-win" ต่อทุกฝ่าย และขอขอบคุณ USCC ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ทั้งในฐานะเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และเป็นกระบอกเสียงสะท้อนถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงความสำคัญของประเทศไทยในห่วงโซ่เศรษฐกิจโลก"

พร้อมยืนยันต่อพันธมิตรภาคเอกชน ว่ารัฐบาลยังเดินหน้าสานต่อนโยบายที่ส่งเสริมการค้า และการลงทุน พร้อมรักษาบรรยากาศที่โปร่งใส เป็นมิตร และสามารถคาดการณ์ได้ "เรามีเป้าหมายร่วมกัน คือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ Win-Win และเชื่อมั่นว่า ด้วยความเข้าใจ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไทยและสหรัฐฯ จะสามารถขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน"

>> “ดีเจแมน - ฟิล์ม รัฐภูมิ” เผชิญหน้าครั้งแรก ก่อนเจรจาไกล่เกลี่ย ปมเรียกเงิน 14 ล้าน คดี Forex-3D

12.52 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ศาลอาญารัชดาภิเษก ศาลนัดเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่าง นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม” นักร้องและนักแสดงชื่อดัง ซึ่งเป็นโจทก์ กับ นายพัฒนพล กุญชร หรือ “ดีเจแมน” ผู้ถูกฟ้องในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิเรียกรับเงินจำนวน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D

ทั้งนี้ ก่อนการขึ้นศาล นายพัฒนพล พร้อมทนายความนายอมร กุศล หรือ “ทนายจิ้ง” เดินทางมาถึงศาลก่อน และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบริเวณด้านหน้าศาล โดยระบุว่า ตนมี “ธงในใจ” ต่อการเจรจาครั้งนี้ และยืนยันว่าทุกสิ่งที่พูดออกไปล้วนเป็นเรื่องจริง พร้อมเปิดใจรับฟังอีกฝ่ายว่าจะพูดอย่างไร แต่ย้ำว่าสิ่งที่นายรัฐภูมิออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ตนไม่สามารถยอมรับได้

เมื่อถูกถามว่ามีการติดต่อพูดคุยนอกรอบกันมาก่อนหรือไม่ ดีเจแมนยืนยันว่าไม่เคยมีการพูดคุยใด ๆ เป็นการส่วนตัว และการเจรจาในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน พร้อมระบุว่าการพูดคุยเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นตามกระบวนการของศาล

ด้านฟิล์ม รัฐภูมิ ให้สัมภาษณ์ว่า การพบกันวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันแบบตัวต่อตัว โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว มีเพียงการติดต่อผ่าน น.ส.สุธีวัน ทวีสิน หรือ “ใบเตย” เท่านั้น พร้อมระบุว่า ไม่มีอคติหรือความรู้สึกโกรธเคืองใดๆ และพร้อมให้อภัยหากอีกฝ่ายยอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ

ฟิล์มยังกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นของการเจรจาไกล่เกลี่ย ยังไม่มีการแสดงหลักฐานใหม่หรือข้อตกลงใด ๆ เกิดขึ้น โดยตนเองไม่รู้สึกกดดันเพราะมั่นใจในข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีอยู่ พร้อมทิ้งท้ายว่า “ความจริงก็คือความจริง” และอยากฟังคำอธิบายจากอีกฝ่ายด้วยตัวเอง เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างเหมาะสม หากการเจรจาไม่เป็นผล คดีจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและนัดสืบพยานตามขั้นตอนต่อไป

>> กทม. เร่งจัดการต้นไม้ล้ม 82 จุด ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ชวนคนกรุงช่วยกันสังเกตต้นไม้เสี่ยง

14.32 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานคร โดยกล่าวถึงปัญหาต้นไม้หักโค่นจากพายุลมแรงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา

โดยกรุงเทพมหานครได้รับแจ้งเหตุต้นไม้หักโค่น 82 จุด รวม 27 เขต ซึ่งกรุงเทพมหานครดำเนินการเก็บกวาด และส่งทำปุ๋ยหมักเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติเป็นห่วงบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่ เพราะช่วงนี้กรุงเทพมหานครมีฝนฟ้าคะนองร่วมกับพายุลมแรง ประชาชนอาจจะต้องร่วมกันระมัดระวังต้นไม้ที่ไม่แข็งแรง เสี่ยงหักโค่น
หากพบสามารถแจ้งกรุงเทพมหานครให้ช่วยดูแลได้ ส่วนเรื่องน้ำท่วมไม่กังวลเพราะแต่ละพื้นที่น้ำระบายได้ดี อาจจะมีเพียงไม่กี่พื้นที่ที่น้ำระบายช้า แต่สักพักก็กลับมาเป็นปกติ

>> ไฟไหม้บ้าน ซอยฉลองกรุง 18 เพลิงลุกไหม้ภายในห้องนอนเสียหายวอด

14.51 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยฉลองกรุง 18 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบน ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้เสียหายภายในห้องนอนทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 16 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่สำรองไฟ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดกระบัง

>> "บิ๊กเต่า" เผยเร่งสอบเส้นทางการเงินบัญชีวัดตรีฯ หากพบเชื่อมโยงกับสีกา "เจ้าคุณอาชว์"

15.45 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยถึงความคืบหน้า กรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ลาสิกขาอย่างเร่งด่วน ที่ จ.หนองคาย โดยไม่ทราบสาเหตุก่อนเดินทางข้ามชายแดน ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

โดยวันนี้ทางตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยจะเป็นการตรวจสอบบัญชีวัด ว่ามีเส้นเงินไปถึงใครบ้าง หากพบว่ามีเส้นทางการเงินไปถึงสีกาอดีตเจ้าอาวาสก็มีความผิด แต่ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นเงินส่วนตัวของท่านก็ไม่ผิด และถ้าสีการู้ว่านั่นคือเงินวัด แล้วยังรับไปถือว่ามีความผิดฐานสนับสุนน

ในส่วนของประวัติอดีตเจ้าคุณอาชว์ เบื้องต้นตรวจสอบประวัติแล้วแต่ยังไม่ละเอียด เพราะเป็นพระใหม่ อายุน้อย แต่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบความผิด ส่วนจะมีการเรียกสีกามาสอบปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ต้องรอตรวจสอบเส้นทางการเงินก่อน ถ้าพบความชัดเจนก็จะดำเนินการขั้นต่อไป

>> พบศพหญิงชราวัย 71 ปี ลอยน้ำ

17.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม รับแจ้งมีคนพบศพลอยน้ำในแม่น้ำแม่กลอง หลังวัดไทร ม.1 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

ที่เกิดเหตุบริเวณริมแม่น้ำมีหญ้าขึ้นรกทึบ พบศพเป็นหญิงสวมเสื้อยึดแขนยาวน้ำเงินคาดขาว กางเกงขายาวลายดอก ลักษณะศพหงายหน้า เริ่มขึ้นอึด ส่งกลิ่นเหม็น ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรีต้องใช้เรือลากศพมาขึ้นที่ท่าน้ำหลังวัดไทร จากการตรวจสอบผู้ตายเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 วัน ผู้ตายอายุประมาณ 60-70 ปี ภายนอกไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย และจากการค้นหาหลักฐานในตัว พบบัตรประชาชนระบุชื่อ นางวันทิตย์ อายุ 71 ปี บ้านอยู่เขตเทศบาลโพธาราม

ทางชุดสืบสวนจึงได้ทำการสอบถามญาติที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว ส่วนสาเหตุนั้นสันนิฐานว่าผู้ตายอาจเกิดอาการเครียด เลยคิดสั้นไปกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายดังกล่าว

>> มอบตัวอีกหนึ่ง แก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างย่านลาดพร้าว

17.51 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี นายไอซ์ อายุ 26 ปี 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับคดีปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผู้กำกับการ สภ.บางศรีเมือง โดยนายไอซ์ ทำหน้าที่พาผู้ก่อเหตุขับรถหลบหนี

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวนายไอซ์ไปตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าทะเบียนรถทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกถอดออก โดยนายไอซ์ให้การว่า นำไปทิ้งในป่าหญ้าข้างทาง บริเวณป่าคลองพระอุดม จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงยึดรถและป้ายทะเบียนไว้ตรวจสอบ

ทั้งนี้ นายไอซ์ ให้การว่า ได้รับค่าจ้างเพียง 1,000 บาท ให้รับจ้างขับรถไปรับผู้หญิงชื่อนา และเพื่อนสาวประเภทสอง ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว โดยไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไร หลังจากส่งเสร็จก็แยกย้าย โดยตนไม่ได้หนีไปกับเสือปุ่นซึ่งเป็นลูกพี่ และรถที่ใช้ก่อเหตุ เป็นชื่อของแฟนสาวซึ่งไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังเหลือผู้ก่อเหตุที่ยังคงหลบหนีอีก 3 คน

>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ ชายวัย 40 ปีเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำ ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์และรถกระบะชนกัน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณจุดตรวจบ้านพระนั่งดิน ม.7 ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ เวสป้า สีเขียว ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ ล้มคว่ำสภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย และห่างออกไปพบรถกระบะ อีซูซุ สีดำ ป้ายทะเบียน พะเยา จอดอยู่สภาพหน้ารถข้างซ้ายพังเสียหายเช่นกัน ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทางอาสาสมัครเร่งให้การช่วยเหลือ แต่ไมเป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 40 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง

>> ไฟไหม้อาคารเรียนไม้ ของโรงเรียนประถม อ.เฉลิมพระเกียรติ เสียหายวอดหมดทั้งหลัง

20.00 น. สภ.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนของโรงเรียนโนนศิลา หมู่ 8 ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์

ที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้อาคารเรียนครึ่งปูนครึ่งไม้ ความยาวของอาคารประมาณ 40 เมตร รถดับเพลิงมากกว่า 10 คันพยายามฉีดน้ำดับไฟ แต่เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากเป็นอาคารไม้ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาก็ตาม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าอาคารเสียหายทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะร่วมตรวจสอบอีกครั้ง

>> ชายวัย 41 ปีถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้าน ตร.เร่งสอบสวน ติดตามคนร้าย จ.พิษณุโลก
20.45 น ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ( ไซทีฮุกตึ๊ง ) จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งมีบุคคลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต จุดเกิดเหตุ ในพื้นที่บ้านนาขาม หมู่ที่ 1 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก

เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพา เข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ลักษณะนอนหงายอยู่หน้าบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาดำเนินการร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช ผู้เสียชีวิตชื่อนาย สุริยา อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดโบสถ์

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

22.12 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.8 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.พังงา ประมาณ 473 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนกับรถตู้ เสียชีวิตกลางถนนบางกรวย - ไทรน้อย จ.นนทบุรี

02.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถตู้ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนบางกรวย - ไทรน้อย ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนถึงทางเข้าถนนจันทร์ทองเอี่ยว ประมาณ 500 เมตร ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ เวสป้า สีน้ำเงิน ไม่พบป้ายทะเบียน ล้มคว่ำสภาพหน้ารถพัง ซึ่งรถได้ทับร่างของผู้ขับขี่ อาสาสมัครตรวจสอบพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 20 - 25 ปี และใกล้กันพบรถตู้โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน ตาก จอดอยู่สภาพท้ายรถพังเสียหาย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง

>> รถเก๋งเสียหลักฟาดเสาไฟฟ้าริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย กู้ภัยงัดรถนำคนขับเจ็บสาหัสออกมา ก่อนเร่งนำส่ง รพ.

04.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลเสียหลักชนเสาไฟฟ้า ริมถนนบางกรวย - ไทรน้อย ฝั่งขาออกมุ่งหน้าถนนชัยพฤกษ์ เลยทางตัดถนนจันทร์ทองเอี่ยม ประมาณ 3 - 4 กม. ช่วงฝั่งตรงข้ามที่ทำการ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา พระยาบรรลือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนเสาไฟข้างทาง ตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสภาพร่างยังติดค้างอยู่ภายในยานพาหนะ อาสากู้ภัยกำลังดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ และนำผู้บาดเจ็บออกมาจากยานพาหนะ ก่อนมอบให้รถกู้ชีพดำเนินการนำส่ง รพ.บางบัวทอง พื้นที่ สภ.บางบัวทอง