“พิชัย” อัดซอฟต์โลน 2 แสนล้าน เยียวยาผู้ประกอบการรับมือภาษีทรัมป์
วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “กรอบเจรจา และรับมือผลกระทบภาษีทรัมป์” ว่า รัฐบาลได้เตรียมซอฟต์โลนจำนวน 2 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ คิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.01%
นายพิชัย กล่าวว่า การเจรจากับสหรัฐฯ ดำเนินมากว่า 100 วันแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากสหรัฐฯ ต้องการลดการขาดดุลการค้าของตน และพยายามผลักดันให้ประเทศคู่เจรจาเปิดตลาดให้สินค้าอเมริกันมากขึ้น ผ่านข้อเสนอที่มีลักษณะเป็นฝ่ายเดียว แตกต่างจากการเจรจาในรูปแบบความตกลงการค้าเสรี (FTA)
ทั้งนี้ ไทยยืนยันจุดยืนในการรักษาสมดุลผลประโยชน์ร่วมกัน และจะเดินหน้าเจรจาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
นอกจากนี้ นายพิชัย เปิดเผยว่า ในการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ อยู่บนหลักการที่ทีมเจรจายึดอยู่ ดังนี้
- ไทยพร้อมเปิดตลาดให้กว้างขึ้นในสินค้าที่สหรัฐฯ ต้องการขาย และไทยต้องการนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยผลิตไม่ได้หรือมีไม่เพียงพอ เช่น ลำไย ปลานิล ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ไทยเสนอเพิ่มให้ในการเจรจา จากเดิมที่เปิดตลาดให้แล้ว 63-64% ขยับเพิ่มเป็น 69%
อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงปกป้องภาคการผลิตภายใน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ตลาดยานยนต์ที่ยังพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะไทยมีการผลิตในประเทศอยู่แล้ว
- สหรัฐฯ ต้องการเพิ่มศักยภาพภาคการผลิตในประเทศ ไทยจึงผลักดันให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและพลังงาน โดยชี้ว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ มีราคาพลังงานต่ำ เช่น ก๊าซธรรมชาติที่มีราคาขายเพียง 2-3 ดอลลาร์ต่อล้าน BTU ซึ่งถูกกว่าราคาตลาดโลกถึง 3-5 เท่า
- สหรัฐฯ ต้องการให้เพิ่มการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) ในกระบวนการผลิตสินค้า โดยอาจปรับเพิ่มจากปัจจุบันที่ 40% เป็น 60-70% เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ไทยต้องเจรจาต่อรองให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยต้องเปลี่ยนวิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ด้วยการหันมาพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศให้มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยปัจจุบัน สัดส่วนการส่งออกของไทยต่อ GDP ลดลงเหลือ 58% จากเดิมที่เคยสูงถึง 70% โดยมีสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 18% ซึ่งนับว่ายังมีความเสี่ยงต่อแรงกระเพื่อมจากมาตรการการค้าของสหรัฐฯ