ชาญชัย-หมอวรงค์ลั่น พิรุธใบเสร็จ ราชทัณฑ์ขัดแพทย์ ใกล้ปิดเกมทักษิณ
วันนี้ (18 ก.ค.2568) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมฟังการไต่สวนคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยระบุว่าได้รับทราบข้อเท็จจริงจากเอกสารและคำให้การที่ขัดแย้งกับแพทย์สภา โดยศาลได้สอบถามถึงใบเสร็จที่ไม่มีรายการค่ายา
นายชาญชัยตั้งข้อสังเกตว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจทั้งเก่าและใหม่ระบุว่าซื้อยาจากภายนอกมาใช้เอง ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดและเป็นพิรุธใหญ่ เนื่องจากระบบ รพ.ตำรวจ จ่ายยาทุกวันแต่แพทย์ไม่ทราบว่าจ่ายยาอะไร ชาญชัยย้ำว่าใบเสร็จทั่วไปของคนไทยที่เข้ารับการรักษาจะมีรายการยา แต่กรณีนี้เป็นข้อยกเว้นที่ไม่มี ซึ่งเป็นเรื่องพิเศษและน่าสงสัย
ผู้อำนวยการทั้งเก่าและใหม่ บอกว่าไปซื้อยาข้างนอกมาใช้เอง งงมากกับระบบของ รพ.ตำรวจ ที่แพทย์จ่ายยาทุกวันแต่ไม่รู้ว่าจ่ายยาอะไร เป็นเรื่องแปลกประหลาดเป็นพิรุธใหญ่มาก
นายชาญชัยยังระบุว่าศาลได้เรียกหลักฐานเหล่านี้แล้ว และสามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ใช่เวชระเบียนและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยในวันที่ 30 ก.ค.2568 นายวิษณุ เครืองาม จะมาเป็นพยานให้ทักษิณ ซึ่งชาญชัยเชื่อว่าความจริงจะปรากฏชัดเจนและคดีใกล้ปิดเกม
หมอวรงค์ฟันธง! ราชทัณฑ์ให้การเท็จ ทักษิณไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤต
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวถึงการไต่สวนว่า มุ่งเน้นการสอบถามแพทย์เกี่ยวกับเหตุการณ์คืนวันที่ 22 ส.ค.2566 ที่นายทักษิณถูกส่งตัวไป รพ.ตำรวจ โดยอ้างว่าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินมีอาการเจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก แต่จากการไต่สวนพบว่าไม่มีการผ่านห้องฉุกเฉิน และทักษิณถูกส่งไปที่ห้องพิเศษชั้น 14 โดยตรง ซึ่งพยานส่วนใหญ่ยืนยันว่าเป็นห้องพิเศษ แม้บางปากอ้างว่าเป็นห้องแยก โดยอ้างเหตุผลเรื่องโควิดและความปลอดภัย
หลาย ๆ ปากให้ข้อมูลสอดคล้องกันชี้ว่าชั้น 14 ที่เอาขึ้นไปส่งนั้น ด้วยสาเหตุสำคัญ 2 กรณี คือ อ้างเรื่องโควิดและอ้างเรื่องความปลอดภัย
หมอวรงค์ตั้งข้อสังเกตว่า แพทย์เวรที่ดูแลในคืนนั้นเป็นแพทย์ศัลยกรรมสมอง ไม่ใช่แพทย์โรคหัวใจ แม้ว่าจะมีการสงสัยว่าเป็นโรคหัวใจ แต่การปรึกษาแพทย์โรคหัวใจเกิดขึ้นในวันที่ 23 ส.ค. และแพทย์หัวใจตรวจจริงในวันที่ 24 ส.ค. พบว่าอาการทักษิณดีขึ้น สามารถกลับบ้านได้หากเป็นผู้ป่วยทั่วไป
แต่ทักษิณยังคงนอนโรงพยาบาลต่อ โดยมีการรักษานิ้วล็อกและผ่าตัดไหล่ ซึ่งหมอวรงค์ชี้ว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลนานถึง 181 วัน โดยทั่วไปการเจาะที่ไหล่ควรนอนโรงพยาบาลประมาณ 7 วัน แต่นายทักษิณอาจมีภาวะอื่น ๆ แฝงตัวอยู่ก็อาจจะทำให้นอนโรงพยาบาลประมาณ 3 อาทิตย์ และทีมราชทัณฑ์ให้ข้อมูลขัดแย้งกับทีมแพทย์ โดยอ้างว่าทักษิณติดเตียงต่อเนื่อง แต่แพทย์บางรายพบทักษิณนั่งโซฟาหรือเดินข้างเตียง
ทีมราชทัณฑ์ให้ข้อมูลไม่ตรงกับทีมแพทย์ ทีมราชทัณฑ์พยายามยืนยันว่านักโทษรายนี้ติดเตียงต่อเนื่อง แต่แพทย์แต่ละท่านที่เข้าไปตรวจ เจอคนไข้นั่งที่โซฟาก็มี เดินอยู่ข้างเตียงก็มี บทสรุป ผมว่าน่าจะยกธงขาวได้แล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรมาแก้ตัว
และหมอวรงค์เรียกร้องให้นายวิษณุ เครืองาม ที่ศาลจะนัดมาไต่สวนว่า คำพูดของนายวิษณุที่ระบุว่า นายทักษิณจำคุกแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เชื่อได้ 100% จึงขอให้นายวิษณุ นำหลักฐานภาพถ่ายที่มีการลงทะเบียนระบบข้อมูลผู้ต้องขัง (รท.101) ที่นายทักษิณถอดเสื้อในแดนคุมขัง ที่มีการถ่ายรูปตรงและด้านข้าง คุมขังเพื่อยืนยันว่าเข้าไปในแดนคุมขัง และมีการลงทะเบียนจริง
สมชายเผยทักษิณไร้หลักฐาน "โรคหัวใจ"
นายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว. เสริมว่า ใบเสร็จการรักษาของทักษิณมีเพียงค่าห้อง 180 วัน โดยค่ายารักษานิ้วล็อกและผ่าตัดไหล่มีน้อยมาก และการผ่าตัดเกิดจากอุบัติเหตุในโรงพยาบาล ไม่ใช่อาการเดิม
นายสมชายยังชี้ว่าไม่มีหลักฐานการรักษาโรคหัวใจขาดเลือดตามที่ราชทัณฑ์อ้าง และทักษิณไม่ได้เข้าห้องฉุกเฉินหรือ ICU ตามที่ควรจะเป็นสำหรับผู้ป่วยวิกฤต โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงโรงพยาบาลและถูกส่งไปชั้น 14 โดยตรง ซึ่งขัดกับ MOU ระหว่าง รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ที่กำหนดให้ผู้ป่วยจากเรือนจำต้องอยู่ในอาคารเฉลิมพระเกียรติที่มีห้องขัง 4 เตียง นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าจะมีหลักฐานยืนยันว่าชั้น 14 มีผู้ป่วยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิด ทำให้การอ้างเรื่องโควิดน่าสงสัย
ทั้งนี้นายสมชาย ยังระบุว่า นายวิษณุที่จะมาเป็นพยาน เปิดกล้องวงจรปิดที่ราชทัณฑ์ในวันที่นายวิษณุ ได้เข้าไป เพื่อยืนยันกับศาลว่าได้เดินทางไปตรวจจริง ๆ
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ตั้งข้อสังเกตว่าแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ทั้งแพทย์เวรและพยาบาลเวรบอกว่าเป็นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่ที่ รพ.ตำรวจ ไม่มีการตรวจโดยแพทย์โรคหัวใจ โดยปล่อยให้ผ่านไปกว่า 20 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันที่ 24 ส.ค. จึงมีแพทย์โรคหัวใจมาตรวจ เมื่อตรวจแล้วพบความดันโลหิตสูงและยาขยายหลอดลม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ รพ.ราชทัณฑ์ สามารถรักษาได้ มองว่าการอ้างทั้งหมดนี้น่าจะเป็นโมฆะ เพราะไม่ได้เป็นไปตามมาตรา 55 การส่งตัวตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ และกฎกระทรวง
ทั้งนี้การตรวจของแพทย์ รพ.ตำรวจ ต้องยืนยันว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือดตามที่ รพ.ราชทัณฑ์ ได้แจ้ง และเช้าวันที่ 24-25 ส.ค. พบว่าความดันโลหิตหายแล้วก็น่าจะกลับไปที่เรือนจำ ซึ่งเมื่อเห็นว่าไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลตำรวจก็ควรจะต้องกลับไปอยู่เรือนจำตามหมายขัง
อ่านข่าวอื่น :
"ชาญชัย" โชว์บิลรักษา "ทักษิณ" 181 วันกว่า 2.4 ล้าน ชี้ไม่มีค่ายา