โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ธนาธรชี้ประเทศไทยไม่ถึงทางตัน 20 ปีติดหล่มอำนาจ ทหารต้องปฏิรูป

PostToday

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ในรายการ"ผ่าทางตันประเทศไทย"เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปีเครือเนชั่น ร่วมกับ 3 บรรณาธิการของเครือเนชั่น ได้แก่ นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร นายบากบั่น บุญเลิศ และนายสมชาย มีเสน มีประเด็นสำคัญดังนี้

ผู้นำทางจิตวิญญาณและการยุบพรรคที่ "คุ้มค่า"

นายธนาธรกล่าวถึงบทบาทของตนในฐานะ "ผู้นำทางจิตวิญญาณ" ของพรรคการเมืองที่ตนมีส่วนร่วมตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จนถึงพรรคประชาชน โดยระบุว่าพรรคทำงานกันเป็นทีม และการยุบพรรคถึง 2 ครั้งนั้น "คุ้มค่ามาก" เพราะวาระที่เคยถูกมองว่าก้าวหน้าเกินไป ตอนนี้กลับกลายเป็น "วาระปกติ" ที่สังคมไทยสามารถถกเถียงกันได้ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมากในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

ทางตันการเมืองไทย: ความกังวลและการหยุดเวลา

เมื่อถูกถามว่าการเมืองไทยมาถึงทางตันแล้วหรือไม่ นายธนาธรแสดงความกังวลว่า "ถ้าทุกฝ่ายเชื่อมั่นในประชาธิปไตย การเมืองจะไม่ถึงทางตัน"แต่ขณะนี้มีความพยายามจากหลายฝ่ายที่ผลักดันให้เกิดทางตันขึ้น เพื่อ "หยุดยั้งเวลาทางการเมือง" ทำให้การเมืองและเศรษฐกิจคงสภาพเดิมตลอดไป

นอกจากนี้เห็นว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในปี 2548 ประเทศไทยมีนายกฯ 9 คน รัฐประหาร 2 ครั้ง การชุมนุมใหญ่ 4 รอบ และการยุบพรรคการเมืองหลักไม่น้อยกว่า 9 พรรค รวมถึงการเลือกตั้งเป็นโมฆะ 2 ครั้ง เขาตั้งคำถามว่าสังคมแบบนี้จะส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปได้หรือไม่

นายธนาธรเน้นย้ำว่าปัญหาสำคัญคือการไม่มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะแบ่งอำนาจในสังคมไทยอย่างไร กติกาไม่เอื้ออำนวย และการมีรัฐธรรมนูญถึง 3 ฉบับใน 20 ปี สะท้อนว่ายังหาข้อสรุปไม่ได้ หากไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็เป็นไปไม่ได้

การทำลายกระแสการเปลี่ยนแปลงและการต่อสู้ด้วยกฎหมาย

นายธนาธรกล่าวถึงการที่บางกลุ่มต้องการหยุดไม่ให้สังคมก้าวหน้าว่าเป็นการพยายามสกัดกั้นพลังการเติบโตของประเทศ ซึ่งการรัฐประหารที่ผ่านมาไม่ได้แก้ปัญหาเดิม แต่กลับสร้างปัญหาใหม่ พรรคประชาชนในปัจจุบันมีความมั่นคงทางกฎหมาย แต่ในสภาวะวิกฤตการเมือง การหาข้อผิดเพื่อยุบพรรคการเมืองสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

ในประเด็น "นิติสงคราม" นายธนาธรชี้ว่ากลไกการถ่วงดุลอำนาจที่เกิดขึ้นในรัฐธรรมนูญปี 2540 ยังไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่ และมีการใช้อำนาจเพื่อฉ้อโกง ซึ่งสะท้อนความจำเป็นในการปรับแก้รัฐธรรมนูญให้ทันยุคสมัย

การรักษาอำนาจนำและการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
นายธนาธรระบุว่ากลุ่มที่พยายามหยุดเวลาการเมืองนั้นทำไปเพื่อ"รักษาอำนาจนำ"และ"รักษาระเบียบสังคมปัจจุบัน"ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม แต่เขาเชื่อว่า "การเปลี่ยนแปลงเป็นพลวัตทางสังคมอยู่แล้ว"และประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้นเพื่อให้แข่งขันกับโลกได้ มิฉะนั้นลูกหลานจะลำบาก

นายธนาธร ยกตัวอย่างการจัดสรรงบประมาณแบบเดิมๆ ที่ไม่สามารถตอบรับการเข้ามาของ AI หรือกฎเกณฑ์โลกใหม่ได้ และวิจารณ์ว่ารัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมายังคงมีการจัดสรรงบประมาณที่คล้ายคลึงกัน โดยพรรคประชาชนต้องการผลักดันการจัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับประชาชนและนำพาประเทศไปข้างหน้า

รัฐราชการกับการผลักดันของนักการเมือง
นายธนาธรเชื่อว่าปัญหาของรัฐราชการเป็นความจริงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งคือการขาด "แรงผลักดันทางการเมือง" จากนักการเมืองที่มีความตั้งใจ หากฝ่ายการเมืองมีความตั้งใจจริง ประเทศไทยจะสามารถก้าวไปได้ไกลกว่านี้มาก

ทั้งนี้หากได้บริหารประเทศ นายธนาธรจะ"จัดสรรงบประมาณใหม่"เพิ่มความมั่นคงในชีวิตประชาชน ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว

ประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ และฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรม

นายธนาธรชื่นชมข่าวดีที่ พ.ร.บ.ประชามติ ผ่านแล้ว ซึ่งจะเปิดทางให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เขากล่าวว่าหากเลือกตั้งครั้งหน้ามีการ "พ่วงถามประชามติ" ด้วยว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือไม่ จะไม่ทำให้ "เสียของ" และควรให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเหมือนการรณรงค์รัฐธรรมนูญปี 2540 และย้ำว่าปัญหาการทุจริตจะแก้ไขได้ด้วยการ "บังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคทุกชนชั้น" และ "การฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรม" จะทำให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติ

ไม่มีดีล และความเชื่อมั่นในอุดมการณ์พรรคประชาชน
นายธนาธรปฏิเสธข่าวลือเรื่อง "ดีล" ทางการเมือง โดยยืนยันว่าพรรคประชาชนเชื่อมั่นในอุดมการณ์ และการพูดคุยทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่จะไม่ก้าวข้าม "เส้นผลประโยชน์ของประเทศ" เพื่อต่อรองให้ตัวเอง ซึ่งจะเป็น "ผลไม้พิษ"

อย่างไรก็ตาม มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคอื่นๆในระดับสส. และแกนนำพรรคแต่ส่วนตัวเองไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว และยังไม่เห็นสัญญาณว่าแกนนำพรรคประชาชนจะนำผลประโยชน์ส่วนตนไปต่อรอง

นายธนาธรเล่าว่าได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครั้งล่าสุดที่ฮ่องกง เป็นการไปพบตามคำแนะนำของนายชัยธวัช ตุลาธน และหลังจากนั้นไม่มีการพูดคุยกันอีก ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น เพิ่งคุยกันเมื่อเช้า (18 ก.ค. 68) เพราะ "กดผิด"

โอกาสรัฐบาลพรรคประชาชน และทางออกของประเทศ
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคอื่น หากเกิดปัญหาขึ้น นายธนาธรเชื่อว่าพรรคประชาชนยังมีโอกาสที่จะได้เสียงเกิน 250 ที่นั่ง แต่หากไม่ถึงเกณฑ์ดังกล่าว การตัดสินใจร่วมรัฐบาลจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ ผลการเลือกตั้ง และ การยอมรับนโยบายหลักที่พรรคได้หาเสียงไว้
ในประเด็น "ทางตัน" ของประเทศไทย นายธนาธรย้ำว่า "อย่าปล่อยให้มันถึงทางตัน" และหัวหน้าพรรคประชาชนก็แถลงแล้วว่ามีทางออก โดยพร้อมโหวตให้คนอื่นเป็นนายกฯ และถอยไปเป็นฝ่ายค้าน

ความเสี่ยงรัฐประหารและการปฏิรูปกองทัพ
นายธนาธรเชื่อว่า "ตราบใดที่ยังปฏิรูปกองทัพไม่ได้ เราไม่สามารถปิดประตูการรัฐประหารได้เลย" การรัฐประหารมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ แม้สถานการณ์จะดูไม่เอื้ออำนวย แต่ประวัติศาสตร์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเคยเกิดขึ้น 2 ครั้งหลังจากปี 2534 ที่กองทัพเป็นที่รังเกียจของประชาชน

แนวทางการปฏิรูปกองทัพ ที่จำเป็นต้องทำไปพร้อมกันมี 2 ส่วน ประกอบด้วย

  • ทำให้กองทัพมีสมรรถนะการรบที่พร้อมป้องกันประเทศตลอดเวลา
  • ทำให้อยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ "ยกเลิกกองทัพพาณิชย์" ไม่ควรมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจหรือพาณิชย์ และควรขอสวัสดิการผ่านกระบวนการงบประมาณปกติเหมือนหน่วยงานอื่น เช่น ยกเลิกการมีสนามกอล์ฟ สนามมวย โรงแรม คลื่นวิทยุ ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ

เกมการเลือกตั้งที่แตกต่าง

นายธนาธรไม่กังวลว่าพรรคอื่นจะรวมกันเพื่อสกัดพรรคประชาชนในการเลือกตั้งใหญ่ เพราะเชื่อว่า "ทำไม่ได้" เนื่องจากทุกเขตเลือกตั้งสำคัญ และไม่สามารถหลีกทางให้กันได้

นอกจากนี้ชี้ว่าลักษณะสำคัญของการเลือกตั้งระดับประเทศ (กระแส นโยบาย บุคคล) แตกต่างจากการเลือกตั้งท้องถิ่น (บุคคล นโยบาย กระแส) ซึ่งทำให้พรรคประชาชนไม่หวาดหวั่น เพราะเป็นคนละเกมและปัจจัยกำหนดชัยชนะก็แตกต่างกัน

สุท้ายนายธนารธร เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการฟื้นฟูประชาธิปไตย ผ่านการบังคับใช้กฎหมายที่เสมอภาค การปฏิรูปกองทัพ เพื่อป้องกันการรัฐประหาร การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการตัดสินใจทางการเมืองที่สำคัญ การจัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ยืนยันว่าไม่เคยคิดล้มสถาบัน การเสนอแก้ไขมาตรา112 เพื่อป้องปกสถาบัน และนำพาประเทศไทยก้าวพ้นวงจรปัญหาเดิมๆ ไปสู่ความก้าวหน้า.

ที่มา ผ่าทางตันประเทศไทย กับ 3 ผู้นำทางความคิด : Chapter Two : ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (คลิ๊กชม)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

"GULF" ออกหุ้นกู้ภายใต้บริษัทใหม่ เสริมแกร่งการลงทุน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อย่าหลงเกม ‘เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง’ เราต้องการ ’สันติ‘

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ธนาธร ชี้ ศาล รธน. วินิจฉัยคลิปเสียงนายกฯ ไม่กระทบเสถียรภาพ มั่นใจ ปชน. พร้อมรับทุกสถานการณ์

MATICHON ONLINE

"ธนาธร" ลั่น อย่าเพิ่งหมดหวังแก้รัฐธรรมนูญ รับได้ ปชน.ดีลกับพรรคอื่น ถ้าเป็นประโยชน์ต่อ ปชช.

THE ROOM 44 CHANNEL

ธนาธร เปิดใจเส้นทางการเมือง ย้ำไม่หมดหวัง พร้อมเป็นนายกฯ หากเหมาะสม

MATICHON ONLINE

"ธนาธร" ยืนยัน ไม่คิดล้มล้างสถาบัน แค่ปรับให้อยู่คู่กับสังคมตามยุคสมัย

THE ROOM 44 CHANNEL

ธนาธร ชี้อีก 3 ปี ครบถูกตัดสิทธิ์ พร้อมคืนสู่สนามการเมือง

Khaosod

"ธนาธร" เชื่อ ยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำ "รัฐบาล" ต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม