กต. เตรียมนำผู้ช่วยทูตทหารลงชายแดน 1 ส.ค. ชี้กัมพูชาละเมิดหยุดยิง-โจมตีพลเรือน
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศของไทยแถลงว่า เตรียมนำคณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในวันที่ 1 สิงหาคม (พรุ่งนี้) เพื่อสังเกตการณ์และรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์เกี่ยวกับเหตุปะทะที่เกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนในฝั่งไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาคมโลกได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจบริบทของสถานการณ์ และตระหนักถึงความเสียหายที่ประชาชนไทยต้องเผชิญอย่างแท้จริง
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้สื่อมวลชนและผู้แทนทางทหารจากต่างประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง พร้อมระบุว่าภาพลักษณ์ของประเทศไทยจะได้รับการเข้าใจอย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้นเมื่อโลกเห็นความจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะการโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่ฝ่ายทหารซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์
กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไทยใช้เวลาในการจัดส่งคณะผู้แทนทางทูตลงพื้นที่ว่า เป็นเพราะต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของบุคคลเหล่านี้เป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตที่อาจตกเป็นเป้าโจมตีหรือเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ จึงจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจพาเข้าพื้นที่ที่เคยเกิดความไม่สงบ
รัฐมนตรีต่างประเทศยังเน้นย้ำว่า แม้กัมพูชาจะสามารถส่งคณะทูตของตนเองเข้าไปสังเกตการณ์ได้อย่างรวดเร็วทันทีหลังการหยุดยิง แต่ไทยจำเป็นต้องดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบโดยไม่ประมาท เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะละเมิดข้อตกลงอีกเมื่อใด โดยเป้าหมายหลักคือการรักษาความปลอดภัยให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทูต
ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมการพาผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศต่างๆ รวมถึงผู้แทนจากสถานทูตประเทศมหาอำนาจและสมาชิกอาเซียน อาทิ มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์และรับฟังการชี้แจงจากกองทัพไทยเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและการบุกรุกอธิปไตยไทยของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงการวางกับระเบิดและการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการรายงานกลับไปยังรัฐบาลของประเทศตน
ด้านนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยไม่มีความกังวลใดๆ ต่อการที่กัมพูชาเปิดพื้นที่ให้นานาชาติเข้าสังเกตการณ์ก่อน เพราะเชื่อมั่นว่าความจริงในพื้นที่จะยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าใครเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่าหากตนเป็นฝ่ายกัมพูชาจะรู้สึกกังวลมากกว่า เพราะข้อเท็จจริงในพื้นที่ไม่อาจปกปิดได้
ทั้งนี้ การพาคณะสังเกตการณ์ลงพื้นที่ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะเป็นการส่งสัญญาณสำคัญต่อเวทีระหว่างประเทศถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบของไทยในการจัดการกับสถานการณ์ชายแดน โดยไทยยังคงยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม ไม่โยนภาระหรือความขัดแย้งให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ และพร้อมแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ