ศึกชิงมรดก?.นี่เองบ้าน “เอ๋ ไพโรจน์”.. ลูกสาวลั่นไม่ได้ไล่อดีตของพ่อออกจากบ้าน
ศึกชิงมรดก?.นี่เองบ้าน “เอ๋ ไพโรจน์”.. ลูกสาวลั่นไม่ได้ไล่อดีตของพ่อออกจากบ้าน
จากกรณี“เอ๋-พลอยรัชษ์ ชินรัตน์วาณิช” อายุ 50ปี อดีตภรรยา “คุณ เอ๋ ไพโรจน์” (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) ร้องอัยการสงสัยการเสียชีวิตของ “คุณ เอ๋ ไพโรจน์” และอ้างว่าถูกให้ออกจากบ้านโดย “เบสท์ ปณิชา” ลูกสาวภรรยาคนแรก
อ่านข่าวต่อ: ฟังอีกมุมจากปาก “เบสท์ ปณิชา” ลูกสาว “เอ๋ ไพโรจน์” กรณีมีผู้ร้องอ้างเป็นอดีตภรรยาเข้าบ้านไม่ได้
ล่าสุดเธอ เผยว่า เมื่อวันที่ 1มิถุนายน 2568คุณไพโรจน์เดินทางออกจากบ้านไปหาเพื่อนที่ต่างจังหวัด จากนั้นวันที่ 3ตนเองก็ได้รับข่าวว่าพี่เอ๋ ไพโรจน์เสียชีวิตแล้วทำให้ตนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ตนเองไม่มีโอกาสไปรับศพ ไม่ได้มีโอกาสเห็นใบมรณบัตรของคุณไพโรจน์ รวมถึงในพิธีฌาปนกิจของคุณไพโรจน์ ตนเองเปรียบเสมือนไม่สิทธิที่จะยืนอยู่ในงาน
หลังจากคุณไพโรจน์เสียชีวิตได้ 15วัน ลูกสาวคุณไพโรจน์ได้ทักไลน์มา บอกว่าบ้านที่ตนเองอยู่กับคุณเอ๋ไพโรจน์มาร่วม 20ปี พ่อได้โอนไปให้ผู้อื่นแล้ว และอย่าบอกใครว่าพ่อขายบ้านแล้วเพราะว่าไม่อยากให้คนอื่นมองพ่อไม่ดี รวมบ้านหลังนั้นลูกๆทุกคนไม่มีใครมีสิทธิ์ได้ พอตนถามไปก็ไล่ให้ตนเองไปตรวจสอบ
จากนั้นลูกสาวของคุณไพโรจน์ ทักไลน์มาถามว่าจะออกจากบ้านเมื่อไหร่ จะเคลียร์หนี้สินของพ่อ รวมถึงทางลูกสาว จะส่งข้อความมาเร่งให้ตนเองต้องย้ายออกจากบ้าน
ด้าน “เบสท์ ปณิชา” ลูกสาว “เอ๋ ไพโรจน์” เผยแก่ดาราเดลี่ว่าไม่ได้ไล่เขาออกจากบ้าน คือต้องการเคลียร์หนี้ของพ่อ พอเข้าไปตรวจสอบก็พบมีทรัพย์สินหาย จึงทำลูกบิดกุญแจใหม่ ซึ่งตอนหลังเขาก็ไปล็อกกุญแจซ้ำเข้าไปอีก
เบสท์บอกอีกว่า คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และหลังพ่อเสียชีวิต มีการนำรถยนต์ของพ่อไปใช้แล้วไม่คืน รวมถึงทรัพย์สินอื่น ๆ ในบ้านได้หายไปหลายรายการ เบสท์ยอมรับว่าได้เปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่จริง เพื่อป้องกันของหาย แต่คุณเอ๋ก็สามารถสะเดาะกุญแจเข้าไปในบ้านได้ และได้นำกุญแจของตัวเองมาล็อกซ้ำ ยืนยันว่าคุณเอ๋ยังคงเข้าออกบ้านได้ เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวยังอยู่ครบ และพ่อเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าได้เลิกรากับคุณเอ๋ไปแล้ว เบสท์กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้กำลังรอคำสั่งศาลเพื่อให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าทรัพย์สินของพ่อมีเพียงรถและบ้านเท่านั้น และจะดูแลทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นไปตามกฎหมาย