ไม่ทนแล้ว! ภูมิธรรม จ่อฟ้อง ‘พิธีกร-นักวิจารณ์’ บิดเบือนข้อมูล ทำลาย-ใส่ร้ายคนอื่น
ภูมิธรรม จ่อฟ้อง ‘พิธีกร-นักวิจารณ์’ บิดเบือนข้อมูล ทำลาย-ใส่ร้ายคนอื่น เชื่อมั่นว่านานาชาติเข้าใจไทยมากกว่ากัมพูชา
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 13 ส.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาลนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดหน่วยทหารพรานร้อย.ทพ.2610 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เหยียบกับระเบิด ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 นายว่า ได้รับรายงานแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเรื่องที่ต้องเห็นใจ
เมื่อเช้าที่ผ่านมา ทหารได้เสนอเรื่องตอบโต้ ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้เป็นการตอบโต้ แต่เป็นการปกป้องตนเองตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่สามารถกระทำได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลกระทบ ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา โดยเฉพาะในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างมีกระบวนการที่จะต้องขับเคลื่อนและฟ้องร้องต่อสหประชาชาติ เพื่อให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ซึ่งสหประชาชาติ จะมีขั้นตอนเพื่อแจ้งให้ทั้งสองฝ่ายรับทราบ ก่อนจะดำเนินการต่อไป
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมพร้อมจะยื่นหนังสือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และควรทำโดยใช้ความระมัดระวัง เพราะเห็นได้ชัดว่าความประสงค์ของกัมพูชา ไม่มีเจตนาที่จะให้เกิดสันติภาพ ทั้งนี้เรื่องทุกอย่างมีกระบวนการ รัฐบาล กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องช่วยกันโดยเฉพาะกองทัพบก ที่จะต้องช่วยกันดู
เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร โดยเฉพาะจ.ศรีสะเกษ ที่ประชาชนทยอยอพยพออกจากพื้นที่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เห็นใจประชาชนที่หวาดระแวง และเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้อยู่ในภาวะไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป และขอความร่วมมือสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อสาธารณะที่มีสังกัดชัดเจน ช่วยทำความเข้าใจและชี้แจงก็จะช่วยได้มาก
ผู้สื่อข่าวถามกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เสนอให้รัฐบาลไทย โดยรมว.ต่างประเทศ เร่งยื่นฟ้องผู้นำกัมพูชา ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ จะสามารถดำเนินการได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการหลายเรื่อง ที่ผ่านมาได้คุยกับเลขายูเอ็น รวมถึงคณะกรรมการสนธิสัญญาออตตาวา ขอย้ำว่าได้ทำทุกอย่างเต็มที่
ที่สำคัญคือการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ที่จะทำให้นานาชาติรับรู้ อาจจะทำช้าไปหรือเสียงดังไม่มากพอ แต่เชื่อมั่นว่านานาชาติเข้าใจไทยมากกว่ากัมพูชา เพราะทุกคนมองเห็นในรายละเอียดต่างๆและสิ่งสำคัญคือจากประชาชนในประเทศ
เมื่อถามว่าการลาดตระเวนของทหาร ตรงนี้สามารถที่จะเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนในการช่วยกันแก้ปัญหา เรื่องนี้ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมเหมือนกัน แต่เมื่ออยู่ในฐานะหน้าที่จึงพยายามนิ่งไว้ให้มากที่สุด
การที่บอกว่าตนไปเข้าข้างเขมร บอกว่าการระเบิดที่โรงพยาบาลไม่ใช่อย่างนั้นอย่างนี้ ขอบอกว่าไม่จริง ถ้าได้ไปดูเทปที่ตนให้สัมภาษณ์ทั้งหมด มีการถามว่าจะชี้แจงอย่างไรว่าทำไมระเบิดจำเพาะมาลงที่นี่ ก็ตอบไปว่าเขาไม่ได้ยิงเฉพาะเจาะจงที่เป้าหมายทางทหาร และยิงด้วย MB-21 ซึ่งออกมาจำนวนมากและทิศทางกระจัดกระจาย หมายความถึงว่ายิงพลเรือนและโรงพยาบาล
แต่ของเรายิงเฉพาะที่เป้าหมาย ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตเลย ดังนั้น อย่าเอาไปบิดเบือนทำลายรัฐบาล สร้างความไม่ไว้วางใจรัฐบาล และไม่ไว้วางใจประชาชน เกิดความแตกแยกและเป็นปัญหา
“ส่วนพิธีกรและนักวิจารณ์การเมืองบางคนที่ไปพูดว่า ให้ตัดขาผมแล้วจะได้รู้ว่าหัวอกเป็นอย่างไร ผมกำลังให้ทนายดำเนินการฟ้องทั้งหมดที่บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยข้อมูลที่ผมให้สัมภาษณ์ทั้งหมดได้เก็บเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ผมเป็นคนที่ไม่เคยคิดจะฟ้องใคร แต่เรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์
เหมือนกับในอดีตที่ผมเคยถูกโจมตี จนนายสนธิ ลิ้มทองกุล แพ้คดีในชั้นศาลฎีกา และเคยขอโทษกันมาแล้ว เรื่องนี้ก็เหมือนกันอย่าพูดอะไรพล่อยๆ อย่าพูดอะไรที่ทำให้เกิดความแตกแยก และอย่าพูดอะไรที่ทำลายคนอื่น และขอให้สื่อช่วยในสิ่งที่พูดด้วย
ถ้าไม่อย่างนั้น ผมจะพูดเฉพาะส่วนที่ควรพูดเท่านั้น จะไม่พูดอะไรมากกว่านี้เพราะพูดไปแล้วมีการเอาไปทำร้าย บิดเบือน ตัดตอนบางส่วน แล้วก็ไม่มีใครช่วย จึงต้องให้ความเป็นธรรม” นายภูมิธรรม กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไม่ทนแล้ว! ภูมิธรรม จ่อฟ้อง ‘พิธีกร-นักวิจารณ์’ บิดเบือนข้อมูล ทำลาย-ใส่ร้ายคนอื่น
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th