‘บิ๊กเล็ก’ ลั่น ทำไมอย่างนี้ไม่ได้ หลังกัมพูชารื้อรั้วลวดหนาม เพราะนี่คืออธิปไตยของไทย
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มวลชนชาวกัมพูชาเข้ารื้อรั้วลวดหนาม ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ว่า จากที่ได้รับรายงาน คือทางผู้ว่าฯราชการจังหวัดสระแก้วจะเดินทางมาพบประชาชนคนไทยในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ทางกองทัพภาคที่หนึ่งกองกำลังบูรพาจึงได้วางแนวรั้วลวดหนามเพื่อป้องกันชาวบ้านชาวกัมพูชา จะเข้ามารบกวน จึงได้มีการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติม ซึ่งไม่ใช่ส่วนที่วางไว้เดิม ตนได้ให้แนวทางไปว่า เป็นการปฏิบัติในพื้นที่ประเทศไทยจะทำอย่างนี้ไม่ได้ผิด กฎหมายอาญา ในฐานความผิดทำลายทรัพย์สินทางราชการ และขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นเมื่อวานขึ้นอีก ซึ่งผู้ที่จะแจ้งความเป็นใครก็ได้ จะเป็นกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่หนึ่ง หรือจังหวัดสระแก้ว ก่อนย้ำว่าจะต้องไปเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีกเพราะประชาชนรับไม่ได้
ขณะเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปด้วย เพราะนี่คือพื้นที่อธิปไตยของไทย เขาจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้ เมื่อถามต่อว่า การปฏิบัติการหลังจากนี้จะเป็นในลักษณะการปราบกลุ่มผู้ชุมชนใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่าทางกองทัพภาคที่หนึ่งเริ่มใช้ LRAD เครื่องมือที่ช่วยสลายการชุมนุมในเบื้องต้น เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเตรียมกำลังเพิ่มเติม พิจารณาใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกำลังทหารอาจจะดูรุนแรงเกินไป
เมื่อถามว่าชาวกัมพูชามีความพยายามจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่กำแพงมนุษย์ เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่ไทย มีรายงานหรือไม่ว่ามีทหารกัมพูชาอยู่เบื้องหลัง พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่าไม่ต้องมีข้อมูลเพราะเขายืนอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว ซึ่งเราได้ให้กองทัพภาคที่หนึ่งทำหนังสือประท้วงไป และเรื่องนี้ จะนำเข้าหารือในที่ประชุม GBC ในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ไม่ได้รอการประชุม GBC เพราะได้สั่งให้ทำหนังสือประท้วงไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนจะถึงขั้นใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือแก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่า เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจากการประชุมอาร์บีซีของกองทัพภาคที่หนึ่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา มีข้อตกลงว่าจะมีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ประสานงานในพื้นที่ วันนี้อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ก่อนยอมรับว่า เมื่อวานนี้กองทัพภาคที่หนึ่ง ได้มีการพูดคุยกับทางกัมพูชา เหตุการณ์จึงคลี่คลายลงในตอนหลัง เนื่องจากกัมพูชาเข้าใจแล้วว่าไม่ได้เป็นการวางเพื่อสกัดกั้นเพิ่มเติม แต่เป็นการวางป้องกันเฉพาะกรณี
เมื่อถามว่าในพื้นที่เขาพระวิหาร มีรายงานสถานการณ์เข้ามาบ้างหรือไม่เนื่องจากมีการรายงานว่า ทางกัมพูชาเติมกำลังเข้ามาในพื้นที่ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่ามี เราได้เตรียมพร้อมเอาไว้ ส่วนเจรจาก็เจรจาไป ส่วนเตรียมกำลังก็เตรียมกำลังไป เราจะต้องไม่ยอมมาปฏิบัติการอะไรทางทหารในพื้นที่เป็นอันขาด
เมื่อถามว่า จากที่แม่ทัพภาคที่สองออกมาระบุว่าหากมีการล้ำในพื้นที่ จะไฟเขียวให้ยิงตอบโต้ได้ในทันที พล.อ.ณัฐพลยืนยันว่า แน่นอน เพราะตนพูดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าหยุดยิงแล้วหยุดยิงตลอดไป หากเขาล่วงล้ำอธิปไตยก็สามารถทำตามอำนาจหน้าที่ได้เลย กฎใช้กำลังของกระทรวงกลาโหม ได้ให้อำนาจไว้แล้ว ผบ.เหล่าทัพ แม่ทัพภาค มีอำนาจทำได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าหยุดยิงแล้วอย่างไรก็ไม่ยิง ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน แต่อย่างไรไทยเรามีการเตรียมพร้อมไว้ทั้งหมด
ส่วนหากมีการปะทะเกิดขึ้นอีกครั้งจะมีการเตรียมพร้อมอพยพประชาชนอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เช่นเหตุการณ์เมื่อคืนที่จังหวัดสุรินทร์ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้มีการเตรียมศูนย์อพยพเพิ่มเติม ยอมรับว่าทำให้คนในพื้นที่แตกตื่นอยู่เหมือนกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีอะไร เป็นการเตรียมความพร้อมเอาไว้ เพราะไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์อะไรไว้ล่วงหน้า
ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ส่งหนังสือมายังผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินจะกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องแยกกัน การออกเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย แต่เรื่องความมั่นคงปกป้องอธิปไตยเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม โดยมีกระทรวงมหาดไทยสนับสนุน ต้องแยกออกจากกัน เรื่องเอกสารสิทธิ์ก็ว่ากันไป ส่วนการปกป้องอธิปไตยกระทรวงกลาโหมไม่ยอมอยู่แล้ว.