จับมิจฉาชีพ ทำทีเป็นผู้โดยสารหลอกทรัพย์สินโชเฟอร์แท็กซี่เกือบ 100 ราย อ้างเป็นเสี่ยร้านเครื่องเสียง
จากกรณีเพจรวมพลคนขับแท็กซี่แห่งประเทศไทย โพสต์ภาพและข้อความระบุตัว มิจฉาชีพชาย ที่ทำทีเป็นผู้โดยสาร นั่งมาในรถ โดยระหว่างทางออกอุบาย จ้างงานให้ไปรับของตามจุดต่างๆ รายได้ 700-800 บาท/ครั้ง แต่ต้องมัดจำเงิน ประกันความเสียหาย หรือเอาสิ่งของของแท็กซี่ไว้เป็นประกัน เช่น มือถือ , บัตรเอทีเอ็ม และหลอกให้หลงกล .. โดยเล่าเรื่องตนเองให้ ดูเป็นคนดี สงสารเห็นใจแท็กซี่อยากช่วย อยากให้ได้เงิน…..ถึงขั้น เอาบัตรเอทีเอ็มตนเองให้แท็กซี่เป็นประกันไว้ ว่าตนไม่ใช้มิจฉาชีพแน่นอน แต่แท็กซี่ต้องให้บัตรเอทีเอ็มตนเองมาเป็นประกัน และต่างฝ่ายต่างบอกรหัส จนท้ายสุด แท็กซี่โดนกดเงินจนหมดตัว โชว์เฟอร์โทรมาร้องเรียนกันหลายราย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ปิยวุฒิ แก้วมณี รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี มอบหมายให้ พ.ต.อ. วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ชาว จ.ของแก่น พร้อมของกลาง พระเครื่องจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ ลักบัตรอิเล็คโทรนิค จับกุมตัวได้ที่ บริเวณชุมชนซอย ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ขับแท็กซี่โดยสาร ถูกมิจฉาชีพเป็นชายไทย รูปร่างอ้วน ทำทีเป็นผู้โดยสาร อ้างตัวว่าเป็นเสี่ยหาแท็กซี่จ้างรายวัน หลอกให้คนขับแท็กซี่ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม โดยให้คนขับแท็กซี่นำของมีค่ามาเป็นหลักประกัน จากนั้นได้ถือโอกาสลักทรัพย์ของคนขับแท็กซี่หลบหนีไป โดยมีผู้เสียหายเป็นคนขับแท็กซี่จำนวนหลายราย
เหตุเกิดวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.00 น. ที่เกิดเหตุปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คนร้ายได้ทรัพย์สิน คือ สร้อยคอทองคำ น้ำหนักสองสลึง มูลค่า 25,000 บาท, แหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง มูลค่า 12,000 บาท และบัตรเอทีเอ็มถูกกดเงินไป 10,600 บาท
เหตุเกิดวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวริมถนนชัยพฤกษ์ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คนร้ายได้สร้อยพระห้อยพร้อมแหวนทองคำ มูลค่า 30,000 บาท
เหตุเกิดวันที่ 18 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ริมถนนตรงข้ามห้างโรบินสัน ถนนราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คนร้ายได้โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
จากการสอบถาม นายสมชัย อายุ 67 ปี คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า เรียกรถจากแยกพรานนกให้ไปส่งพุทธมณฑล สาย 1 พอนั่งแล้วขอดูพระดูแหวน แล้วเอาบัตร ATM ของมันที่บอกว่ามีอยู่ 800,000 บาท จากนั้นให้ตนลงไปกดเงิน 2 ครั้งครั้งละ 20,000 บาท แต่ไม่ได้เงิน แล้วเอาบัตร ATM ของตน พระหลวงพ่อโสธร สร้อยคอซึ่งเป็นของเก้และแหวนเพชรซึ่งเป็นของพ่อตนไป ตนพยายามทวงคืนเขาบอกเดี๋ยวแป๊บเดียวก็มาแล้ว แล้วยังโทรมาถามตนว่าสร้อยนาคใช่ไหม ตนบอกไม่ใช่เป็นสร้อยเก้ ส่วนบัตร ATM ของตนที่เขาไปไม่ถูกกดเงินเพราะตนแจ้งอายัดทันที มูลค่าเสียหายเฉพาะแหวนก็เป็นแสน หลวงพ่อโสธรเลี่ยมทอง ส่วนสร้อยยังอยู่ ตนไม่เคยคิดเอาเปรียบใครไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็คิดว่ามันจะเป็นเหมือนตน มันก็บอกว่าคนดีเหมือนกัน ตนไม่เคยคดโกงใคร โดยถูกหลอกไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568
ขณะที่ นายพลเฉลิม อายุ 61 ปี ขับแท็กซี่ กล่าวว่า ถูกก่อเหตุเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เขาเรียกรถตนจากสุขสวัสดิ์ ไปถนนศรีนครินทร์ โดยเหมาไป - กลับ จะไปเอาของ ให้ตนรออยู่ตรงนี้ เขาจะไปเอาของอีกร้านนึงที่อยู่ใกล้ๆกัน โดยเอาพระของตนประมาณ 9 องค์และสร้อยไปด้วย เขาอ้างมีอาชีพทำเครื่องเสียง เขาขอดูพระ แล้วเอาโทรศัพท์ของตนไปเป็นของประกันด้วย เพราะเขาบอกว่าจะให้วิ่งงานประจำ อ้างว่าคนเดิมของเขาออกไป ตนนี้ยังงงไปหมดว่าโดนหลอกได้ยังไง โดยเขาจะให้ค่าจ้าง 850 บาท พระที่ถูกหลอกไปเป็นของเก่าประเมินมูลค่าไม่ได้ เมื่อตำรวจจับตัวเขาได้เหลือพระอยู่องค์เดียว โดยผู้ต้องหาตั้งใจจะก่อเหตุ ขึ้นมาข้างหน้าแล้วก็ชวนคุยตนก็มึน มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 50 คนที่ถูกหลอกบางคนสูญไปหลักแสนคน ขอบคุณตำรวจ สน.นี้ ที่ทำงานได้เร็วจับคนร้ายได้เร็ว ตนดีใจที่ทำให้คนชั่วในสังคมได้หมดไป
ด้านนางลมัย อายุ 61 ปี อีกหนึ่งผู้เสียหาย กล่าวว่า คนร้ายได้เรียกรถตนจากถนนสุขสวัสดิ์ ไปถนนพระราม 2 อ้างว่าไม่อยากขึ้นรถเมล์เพราะเขาใส่ทองเส้นใหญ่แล้วเอาออกมาให้ดูเส้นเบ้อเร่อเลย ตนบอกว่าทองเส้นใหญ่ขนาดนี้เขาไม่กระชากหรอกคอจะขาด แล้วเขาไปคุยถึงแท็กซี่อีกคันว่าให้ไปเอาของแล้วไม่ยอมไปเอาของ เอาเงินไปเล่นไฮโลหมด โดยเขาคุยอ้างว่าจะหารถเหมาให้คอยไปรับเครื่องเสียง เพราะไอ้คันนี้ไม่ได้จ้างมันแล้ว โดยจะให้ตนครั้งละ 700 บาท จะให้พิเศษอีก 100 บาท โดยให้แบงค์พันมาแต่ตนไม่มีทอน จึงให้เขาเก็บเงินไว้ก่อนถึงจุดหมายแล้วค่อยว่ากัน เขาคุยไปตลอดทางไลฟ์สดขายเครื่องเสียงอยู่ร้านประดับยนต์
จากนั้นเขาให้ตนไปรับเครื่องเสียงร้านแห่งหนึ่งใกล้โลตัสพระราม 2 โดยเขาขอลงก่อน อ้างว่าจะเชื่อใจตนได้อย่างไรจะเอาเครื่องเสียงเขาไปหรือเปล่า ตนจึงบอกว่าตนไม่เคยโกงใคร จากนั้นเขาขอโทรศัพท์ตนไว้เป็นประกัน แล้วเขาลงจากรถไป และเขาก็ไม่จ่ายค่ารถด้วย
ส่วนผู้ต้องรายนี้ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่จำไม่ได้ว่าก่อเหตุมากี่ครั้งแล้ว ตระเวนเรียกแท็กซี่ตามที่ต่างๆไปเรื่อย โดยไม่เลือกว่าใครจะเป็นคนขับรถแท็กซี่ วันหนึ่งเคยก่อเหตุมากที่สุด 3 ครั้ง
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง พบก่อเหตุมาหลายพื้นที่ โดยมีผู้เสียหายเป็นคนขับแท็กซี่โดยสารจากหลายพื้นที่ทั้ง กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ รวมตัวมาชี้ตัวผู้ต้องหาเกือบ 100 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติพบว่า มีหมายจับศาลอาญา คดีชิงทรัพย์ หมายจับแขวงดอนเมือง คดีลักทรัพย์ และหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน คดีลักทรัพย์