กระบี่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ นำตำรวจไซเบอร์ลุยปฏิบัติการ MONEY CASH BACK
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) นำตำรวจไซเบอร์ลุยปฏิบัติการ “MONEY CASH BACK” ช่วยเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ สูญกว่า 30 ล้าน อายัดเงินทัน 1.2 ล้าน ส่งคืนผู้เสียหาย 3 ราย
เมื่อวันที่ (18 สค.) ที่ห้องไทรเงิน โรงแรมกระบี่รีสอร์ท ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการปฏิบัติการ “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.28-30”
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์ โดยที่ผ่านมาโครงการ MONEY CASH BACK สามารถติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหายได้แล้วรวมกว่า 231 ล้านบาท
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายเพิ่มอีก 3 รายในพื้นที่ภาคใต้ที่ถูกหลอกให้โอนเงิน รวมความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท และสามารถอายัดเงินได้ทันกว่า 1.28 ล้านบาท ส่งคืนผู้เสียหายต่อหน้าสื่อมวลชน
โดยมีผู้เสียหาย 3 ราย กรณีที่ 1 หญิงชาวภูเก็ต ถูกหลอกให้ลงทุนกดสินค้าออนไลน์ สูญเงินกว่า 220,000 บาท ตำรวจอายัดคืนได้ 70,449.27 บาท กรณีที่ 2 หญิงวัย 57 ปี ชาวเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น และซ้ำร้ายถูกเพจปลอมแอบอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ หลอกให้โอนเพิ่ม สูญรวมกว่า 30 ล้านบาท แต่สามารถติดตามคืนได้ 1 ล้านบาท กรณีที่ 3 หญิงชาวพัทลุง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกเปลี่ยนมิเตอร์ดิจิทัล เงินหายจากบัญชีกว่า 1.95 ล้านบาท เจ้าหน้าที่อายัดคืนได้ 210,074 บาท
รวมทั้งหมด ตำรวจสามารถนำเงินคืนให้ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เป็นจำนวน 1,280,523.27 บาท ตามขั้นตอนของโครงการ “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวจะดำเนินต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และย้ำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังกลโกงรูปแบบใหม่ ๆ ที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวง