แอร์ แคนาดา หยุดบิน สั่งพักงาน พนง. หลังข้อพิพาทสัญญาค่าจ้างไม่ลงตัว
วันนี้ (16 ส.ค.2568) CNN รายงาน แอร์แคนาดา สายการบินใหญ่ที่สุดของแคนาดา กำลังประสบวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ หลังจากมีแผนจะสั่งพักงานพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันนี้
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานต้อนรับ ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพ Canadian Union of Public Employees (CUPE) เกือบร้อยละ 99.7 ลงคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นเพื่อจะนัดหยุดงาน ทำให้สายการบินตอบโต้ด้วยการออกประกาศล็อกเอาต์ (พักงาน) 72 ชั่วโมง ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม แม้จะมีการพยายามเจรจาตลอดคืนวันศุกร์ แต่เมื่อไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ พนักงานต้อนรับกว่า 10,000 คนก็ได้เริ่มหยุดงานในเช้าวันนี้ ส่งผลให้แอร์แคนาดาต้องประกาศระงับการปฏิบัติงานทั้งหมด
เที่ยวบินแรก ๆ ของแอร์แคนาดาเริ่มถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. และเพิ่มขึ้นในวันที่ 15 ส.ค. ก่อนที่จะหยุดให้บริการอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 16 ส.ค. สายการบินได้ชี้แจงว่าการหยุดดำเนินการและการกลับมาให้บริการนั้นไม่ง่ายเหมือนการกดปุ่มเปิดปิด แต่เป็นระบบที่ซับซ้อนมาก และคาดว่าจะใช้เวลาถึง 1 สัปดาห์ในการเริ่มกลับมาดำเนินการเต็มรูปแบบ หลังจากที่บรรลุข้อตกลงแล้ว
ความขัดแย้งหลักเกิดจากการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่ยืดเยื้อมานาน 8-9 เดือน โดยทั้ง 2 ฝ่ายยังคงมีข้อเรียกร้องที่แตกต่างกันอย่างมากในเรื่องค่าจ้างและค่าตอบแทนสำหรับการทำงานที่ไม่ได้บิน โดยทางสายการบินระบุว่าได้เสนอการขึ้นค่าตอบแทนรวมร้อยละ 38 รวมถึงสวัสดิการและเงินบำนาญในช่วง 4 ปี ซึ่งจะทำให้นักบินมีรายได้ดีที่สุดในแคนาดา แต่สหภาพฯ ปฏิเสธข้อเสนอนี้และยื่นแจ้งการนัดหยุดงานแทน
ในทางกลับกัน สหภาพฯ แย้งว่าข้อเสนอขึ้นค่าจ้างร้อยละ 8 ในปีแรกนั้นไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ พวกเขาต้องการค่าจ้างร้อยละ 100 สำหรับทุกชั่วโมงการทำงาน รวมถึงชั่วโมงที่ไม่ได้บิน และระบุว่าค่าจ้างปัจจุบัน "แทบจะไม่พอดำรงชีวิต" Wesley Lesosky ประธาน CUPE Component ของ Air Canada กล่าวว่าตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เราได้นำเสนอข้อเสนอที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่มั่นคงเกี่ยวกับค่าจ้างและการทำงานที่ไม่มีค่าตอบแทน ทั้งหมดนี้มีรากฐานมาจากความเป็นธรรมและมาตรฐานอุตสาหกรรม สหภาพฯ ยังอ้างว่าแอร์แคนาดาไม่ตอบโต้ข้อเสนอ 2 ครั้งล่าสุดของพวกเขาเลยนับตั้งแต่วันอังคารที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา
การหยุดบินครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสารประมาณ 130,000 คน/วัน ที่ใช้บริการเที่ยวบินของแอร์แคนาดาและแอร์แคนาดารูจ ซึ่งมีประมาณ 700 เที่ยว/วัน นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีชาวแคนาดาประมาณ 25,000 คน/วัน ที่อาจตกค้างอยู่ในต่างประเทศ
ผลกระทบยังแผ่ขยายไปนอกแคนาดา โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ที่มีเที่ยวบินเกือบ 430 เที่ยว/วัน ณ สนามบินกว่า 50 แห่งในสหรัฐฯ แอร์แคนาดาเป็นสมาชิกของ Star Alliance ซึ่งเป็นกลุ่มสายการบินระหว่างประเทศ 25 แห่งที่ประสานงานกันในเที่ยวบินเชื่อมต่อและบริการต่าง ๆ
เพื่อบรรเทาผลกระทบ แอร์แคนาดาจะพยายามจัดหาเที่ยวบินทางเลือกผ่านสายการบินพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ หากเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม สายการบินเตือนว่าการจองเที่ยวบินใหม่ทันทีอาจทำได้ยาก เนื่องจากสายการบินอื่น ๆ มีเที่ยวบินเต็มอยู่แล้วในช่วงฤดูร้อน และยังประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวนผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือของสายการบิน หรือเลือกที่จะจองการเดินทางใหม่ในวันอื่นโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลง
ทางด้าน Patty Hajdu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงานและครอบครัวของแคนาดา ได้พบปะกับทั้งสหภาพพนักงานต้อนรับและสายการบิน และได้กล่าวในแถลงการณ์ว่ารู้สึก "ผิดหวัง" กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายวางความขัดแย้งไว้ และกลับมาที่โต๊ะเจรจาเพื่อให้บรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ของผู้เดินทางจำนวนมาก ยืนยันว่าผู้ไกล่เกลี่ยของรัฐบาลกลางจะยังคงพร้อมช่วยเหลือจนกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้
อ่านข่าวอื่น :
เมียนมาเข้มขนส่ง กระทบน้ำมันขาดแคลน ชาวเมียวดีแห่เติมที่แม่สอด
ทัพภาค 1 แจง เหตุตึงเครียดชายแดนสระแก้ว เน้นปกป้องอธิปไตย-มนุษยธรรม