"ยะหาโมเดล" ชาวบ้านบลูกาลูวัส ร่วมโค่น-เผา ทำลายต้นกระท่อม สร้างต้นแบบสังคมปลอดยาเสพติด จ.ยะลา
"ยะหาโมเดล" ชาวบ้านบลูกาลูวัส ร่วมโค่น-เผา ทำลายต้นกระท่อม สร้างต้นแบบสังคมปลอดยาเสพติด จ.ยะลา
(20 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บ้านบลูกาลูวัส หมู่ 6 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา บรรยากาศอบอวลไปด้วยพลังแห่งความร่วมมือ เมื่อชาวบ้านในชุมชนได้ผนึกกำลังกันในปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับภัยยาเสพติดในครัวเรือน โดยเฉพาะ “พืชกระท่อม” ซึ่งกำลังกัดกินสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่
การรวมพลังครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนนโยบาย "120 วัน วาระพืชกระท่อม" ของรัฐบาล โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้ริเริ่ม ซึ่ง นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้นำทีมเจ้าหน้าที่จาก ศอ.บต. และหน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ นายปกรณ์ สุระคำแหง ปลัดอำเภอยะหา, ร.ต.อ.วิจิตร ไชยสิงห์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ยะหา, ร.อ.สมพร ศรีสวัสดิ์ ผบ.ร้อย.ทพ.4711 ฉก.ทพ.47 และนายมะซาลี ละฮา รองนายก อบต.กาตอง โดยมี นายมะดารี อาแด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 เป็นผู้นำชุมชนในการ "โค่นและเผาทำลายต้นกระท่อม" ในครั้งนี้
นายปกรณ์ สุระคำแหง ปลัดอำเภอยะหา กล่าวว่า หลังจากมีการรณรงค์และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร้านค้าที่เคยจำหน่ายกระท่อมอย่างเปิดเผยได้ค่อยๆ หายไปจากเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เหลือเพียงการบริโภคในบางบ้านในชุมชนเท่านั้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ โดยปลัดอำเภอยะหาได้กล่าวชื่นชมผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ที่กล้าเป็น “หมู่บ้านนำร่อง” ในการโค่นและเผาทำลายต้นกระท่อม เพื่อเป็นจุดประกายและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
ด้าน นายมะดารี อาแด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ในฐานะผู้นำชุมชน ได้กล่าวด้วยความดีใจที่นโยบาย “120 วัน” ของรัฐบาลได้ทำให้ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยยึดหลักการของศาสนาที่ห้ามการเสพสิ่งมึนเมาเป็นหลัก และได้แสดงความเป็นห่วงถึงปัญหา “4x100” ที่กำลังระบาดอย่างหนัก แต่เชื่อว่าหากชุมชนเข้มแข็ง ก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ดีเพื่อปกป้องลูกหลานของตน
นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้กล่าวยืนยันถึงความจริงจังของรัฐบาลในการแก้ปัญหายาเสพติดว่า ขณะนี้สถานการณ์ซื้อง่ายขายคล่องตามท้องถนนเริ่มคลี่คลายลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วย “พลังของสังคมและพลังของประชาชน” ซึ่งเป็นพลังที่ยั่งยืนที่สุด นอกจากนี้ยังได้ประกาศข่าวดีว่าจังหวัดยะลาจะมีการตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมที่ ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา เพื่อรองรับการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบต่อไป
การรวมพลังของภาครัฐและประชาชนในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การทำลายต้นกระท่อม แต่เป็นการปลูกความหวังและสร้างอนาคตที่สดใสให้แก่ลูกหลานในพื้นที่ เป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นว่าหากชุมชนเข้มแข็งและร่วมมือกันอย่างจริงจัง ก็จะสามารถเอาชนะปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างยั่งยืน และความร่วมมือในครั้งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากเห็นเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นความดีงามและความงดงามของพื้นที่ ที่เกิดจากความตระหนักของชุมชนเอง
เครดิต YalaToDay ยะลาทูเดย์