“แม่ทัพภาค 1” ลั่น ด้วยศักดิ์ศรี ยัน ไม่เคยเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ชายแดน
(22 ส.ค. 68) วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร รายงานว่า “แม่ทัพใหญ่” ลั่น ด้วยศักดิ์ศรี ยัน ไม่เคยเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ชายแดน ขอให้เชื่อมั่น-ปัดโยง การโยกย้ายทหาร ยัน สนิทสนมกันจะตาย ผมทำงานอย่างเดียว แจง การเปิดปิดด่าน ที่ จันทบุรี-ตราด ไม่เกี่ยว กองทัพภาค1 ชี้ ที่สระแก้ว มีปิดด่านก่อนสู้รบ ตามยุทธวิธี ศอ.ปชด เผย เหตุ ไม่เปิดพื้นที่สู้รบ ที่ปอยเปต เพราะกลัวจะกลายเป้าสงคราม ทำประชาชนเดือดร้อน แต่เอารถเกราะ รถถัง มาประชิดชายแดน หวังยับยั้งกัมพูชาไปเพิ่มเติมกำลัง ในพื้นที่อีสานใต้ ยันพื้นที่บ้านหนองจาน เป็นของไทย วางแนวลวดหนามเพื่อกั้นเขตทางทหาร ชี้ จุดนี้เป็นพื้นราบระหว่าง หลักเขต46-47 จึงไม่มีหลักเขตแดน
“แม่ทัพใหญ่” พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เปิดแถลงข่าว หลังการประชุม RBC ไทย- กัมพูชา ที่ สระแก้ว และ ชี้แจง ครั้งแรก หลังถูกโจมตีอย่างหนัก ในห้วงที่ผ่านมา ใน 4 ประเด็น ทั้งการไม่เปิดการรบในพื้นที่ ทัพ1 ปอยเปต- การเปิดปิดด่าน-พื้นที่บ้านหนองจาน-การวางแนวลวดหนาม -หลักเขต
พลโท อมฤต กล่าวว่า กองทัพภาค 1 ยึด แผนที่ 1:50,000 เช่นเดียวกับ กองทัพภาคที่ 2 แต่ลักษณะพื้นที่มีความแตกต่างกัน ด้าน กองทัพภาคที่ 2 มีลักษณะภูมิประเทศเด่นชัด แนวเทือกเขาพนมดงรัก บางจุดมีหน้าผาชัดเจนเป็นป่าเขา
ต่างกับพื้นที่ กองทัพภาค1 ซึ่งเต็มไปด้วยชุมชนขนาดใหญ่ของทั้งสองฝั่ง ลักษณะ ดินต่อดิน ยกเว้นบางช่วงที่อาจเป็นแนวคลอง ได้แก่ คลองลึก ยืนยันว่าตลอดแนวหลักเขต ตั้งแต่ปี2528-2551 กำลังพลกองทัพภาคที่ 1 สามารถดูแลได้ทั้งหมด พร้อมได้ภาพสดจากกล้องและโดรน เพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็นถึงกำลังพลที่รักษาหลักเขตทั้งหมด
พลโท อมฤต กล่าวว่า ยังมีบางหลักเขตที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับ จึงเป็นที่มาของ MoU 43 ที่ทำไว้ระหว่างรัฐบาล ได้รับความยินยอม จากทั้งสองประเทศตรงกันว่า ในจุดที่ตกลงไม่ได้ จะไม่มีการเข้าไปเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้เกิดขึ้น อีกทั้งปัจจุบัน เรามีเครื่องมือที่ทันสมัย ชัดเจน แม่นยำ โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของทั้งสองประเทศ สำหรับขั้นตอนต่อไป ก็จะเป็นระดับนโยบายที่เราจะทำต่อไป
สำหรับการปฏิบัติในพื้นที่ของกองทัพภาค 1 ในการสนับสนุนสถานการณ์ความตึงเครียดเกิดในพื้นที่ทัพภาค 2 นั้น พลโท อมฤต กล่าวว่า ตั้งแต่ฃกุมภาพันธ์ ปี 2568 มีการยั่วยุมาตลอด ตั้งแต่การร้องเพลงชาติที่ประสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ที่ช่องบก และการวางระเบิด เหตุการณ์ความรุนแรงยกระดับมากยิ่งขึ้น
จนมีการปฏิบัติการทางทหาร วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ซึ่งในส่วนกองทัพภาค 1 มีการเคลื่อนย้ายกำลังครบทุกหน่วย ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม และเข้าปฏิบัติพื้นที่เป้าหมายในช่วงเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม เสร็จสิ้น โดยไม่มีการโต้ตอบจากฝ่ายตรงข้าม เป็นเพราะกำลังรบของฝ่ายไทยในพื้นที่กองทัพภาค1 มีกำลังรบสูงกว่าฝ่ายกัมพูชา
นอกจากนี้ สิ่งที่คำนึงถึงตลอดคือ หากมีการเปิดพื้นที่รบเพิ่มจากพื้นที่กองทัพภาค 2 ก็จะกลายเป็นการประกาศสงคราม และหากเป็นสงคราม จะมีความวุ่นวายตามมาอีกมากมาย ทั้งการระดมสรรพกำลัง การควบคุมต่างๆ ที่สำคัญคือ ประชาชนจะเดือดร้อนหมด เช่นในพื้นที่ภาคอีสานที่มีการอพยพประชาชนนับแสนคน แต่ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีการเตรียมและอพยพแต่ไม่มากเท่า เพราะเราได้คำนึงตลอดถึงความเดือดร้อนของประชาชน ในส่วนนี้ประชาชน ที่อยู่ตอนในหรือคนในกรุงเทพฯ อาจไม่เข้าใจ
ยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพภาค 1 ช่วยยับยั้งการไปเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2
ส่วนการปฎิบัติต่อพื้นที่ บ้านหนองจาน ที่กำลังเป็นข่าวในขณะนี้ ว่า ได้พยายามผลักดัน ถอนทหารกัมพูชาออกไป โดยไม่มีการปะทะ หลังจากนั้น จึงมีการวางแนวลวดหนาม เพื่อควบคุมพื้นที่ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามา
ส่วนการปฏิบัติต่อพื้นที่ บ้านหนองจาน ที่กำลังเป็นข่าวในขณะนี้ ว่า ได้พยายามผลักดัน ถอนทหารกัมพูชาออกไป โดยไม่มีการปะทะ หลังจากนั้น จึงมีการวางแนวลวดหนาม เพื่อควบคุมพื้นที่ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามา
ส่วนการเปิดปิดด่านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ไม่เกี่ยวข้องกับจันทบุรีและตราด เพราะมีการปิดด่านก่อนที่จะมีสถานการณ์การสู้รบ ตามยุทธวิธีของ ศอ.ปชด. เป็นภารกิจปราบปรามยาเสพติด และสแกมเมอร์ การปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการช่วยลดทอนขีดความสามารถ และปิดเส้นทางทางการเงินให้กับฝั่งกัมพูชา ทำให้ฝั่งกัมพูชาขาดกำลังบำรุง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแก๊งสแกมเมอร์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวไทยและสร้างผลกระทบไปทั่วโลก ผม ถือว่าการปฏิบัติในส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ นอกจากหลักยุทธการและยุทธวิธี ที่ได้คำนึง อย่างรอบคอบตลอดมาในการดำเนินการของกองทัพภาค 1
“กองทัพภาค1 ขอยืนยัน ในศักดิ์ศรีการรักษาประชาธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนและทรัพย์สิน ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ ใดๆ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพภาค1 ”
เมื่อถามว่า พื้นที่ชายแดนกองทัพภาคที่ 1 เป็นพื้นที่ราบและมีชุมชน แต่ยังมีกระแสโจมตีไปในเรื่องการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ พลโท อมฤต กล่าวว่า ไม่เกี่ยว วันนี้จึงได้ให้สื่อมาทำข่าวการประชุม RBC และลงพื้นที่กับคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว จึงถือโอกาสทำความเข้าใจให้สื่อโซเชียลฯทราบว่าที่จริงแล้วเป็นอย่างไร ได้เห็นภาพว่าเป็นอย่างไร ยุทธศาสตร์พื้นที่ ระหว่างพื้นที่หน้าผา กองทัพภาคที่ 2 แตกต่างจากกองทัพภาคที่ 1 ที่เป็นทุ่งนาติดกัน
ส่วนอีกเรื่องคนก็พูดกันไป “ผมสนิทสนมกันจะตาย ทำงานร่วมกันมาตลอด แต่คนก็พูดกันไป เบี่ยงเบนไปอะไร เป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่ได้นั่น ผมก็ทำงานอย่างเดียว จะเห็นว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยออกมาพูดอะไร ผมทำงานอย่างเดียว
ขอบคุณข้อมูล : วาสนา นาน่วม
ขอบคุณภาพ : สวท.สระแก้ว