"ศุภชัย" โต้เดือด! "เดชอิศม์" ปัด “ภูมิใจไทย”เอี่ยวฮั้วเลือก ส.ว.-เขากระโดง เตือนอย่าดึงการเมืองป่วนกระบวนการยุติธรรม
"ศุภชัย" โต้เดือด! "เดชอิศม์" ปัด “ภูมิใจไทย”เอี่ยวฮั้วเลือก ส.ว.-เขากระโดง เตือนอย่าดึงการเมืองป่วนกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการโพสต์เฟสบุ๊กถึงกรณีที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวพาดพิงกระทบภาพลักษณ์พรรคภูมิใจไทย ว่า อยากจะบอกกับนายเดชอิศม์ว่า มีความเป็นคนไม่พอ แต่ก็เป็นคนที่มีคุณธรรม ส่วนกรณีที่นายเดชอิศม์ พาดพิงว่าพรรคภูมิใจไทยเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก สว.นั้น ตนขอชี้แจงว่า อยู่ในขั้นตอนการสืบสวน เวลานี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงว่าใครเป็นผู้ต้องหากระทำความผิด และต้องถูกสังคมรังเกียจ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปทำคดีอย่างมิชอบ
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ขณะที่เรื่องคดีเขากระโดง นายเดชอิศม์เป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ มาวันแรกก็ดูคึกคักว่าจะเพิกถอน จนวันนี้ไม่รู้กี่เดือนก็ยังไม่ได้ทำ และควรรอกระบวนการของศาลที่จะต้องตัดสินคดี พร้อมย้ำว่าเรื่องทั้งหมดคือเรื่องทางการเมือง ตนจึงยืนยันว่าทั้งสองประเด็นนี้ยังมีผู้บริสุทธิ์อยู่ นายเดชอิศม์ไม่ควรยกเรื่องเหล่านี้มาโจมตีอ้างว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่น่ารังเกียจ ไม่น่าจะคุยด้วย และอยากกล่าวเตือนอีกว่า นายเดชอิศม์เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ การกระทำก็ย่อมผูกพันกับพรรค ท่านต้องเรียนรู้กับการเป็นเลขาธิการพรรคการเมืองที่ดี ท่านมาแบบทางลัด เรียนลัด ข้อสอบรั่วด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
เมื่อถามว่า เป็นการกล่าวหาที่แรงไปหรือไม่ ว่าคดีฮั้วเลือก สว.เลวร้ายกว่าการทำรัฐประหารร้อยครั้ง นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายเดชอิศม์กล่อมตัวเอง แต่ตนเข้าใจอยู่ เพราะคนที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วหลุดออกไปก็คงยังทำใจไม่ได้ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ก็ต้องแผ่เมตตาให้เขา
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นถึงอำนาจการยุบสภา นายศุภชัย กล่าวว่า เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาก็เคยให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลรัฐสั่งการไม่สามารถยุบสภาได้ และเกรงว่าจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราต้องเข้าใจว่าการยุบสภา เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ไม่ได้เป็นของผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ที่ทำงานประจำ เรื่องดังกล่าวถือเป็นอำนาจพิเศษ ขอเตือนว่าอย่าหาทำปล่อยให้กระบวนการเดินไปด้วยตัวเอง