ดราม่าหนังญี่ปุ่น ชาวเน็ตท้วงโรงหนังโปรโมทภาพยนตร์ “ศาสดาลาพักร้อน” ชี้ทำศาสนาเสื่อม
กลายเป็นประเด็นดราม่าจนได้ เมื่อชาวเน็ตไทยท้วงติดถึงความเหมาะสมของภาพยนตร์ญี่ปุ่น ศาสดาลาพักร้อน เดอะ มูฟวี่ ที่กำลังจะฉายในบ้านเรา ชี้อาจทำให้ศาสนาเสื่อม
ประเด็นดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวานนี้ (1 กันยายน) เมื่อทาง Major Group ได้มีการโพสต์โปรโมตภาพยนตร์เรื่อง ศาสดาลาพักร้อน เดอะมูฟวี่ (Saint Young Men The Movie) ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราในวันที่ 4 กันยายน 2568
แต่หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเข้ามาท้วงติงถึงความเหมาะสมของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยอ้างว่าหนังเรื่องนี้อาจทำให้ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาดูเสื่อมหรือดูแย่ลง แต่ก็ฝ่ายที่มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นมุมมองจากผู้สร้างคนญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนิกายมหายาน และเชื่อว่าหนังเรื่องนี้อาจทำให้คนหันมามองศาสนามากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย และนี่คือส่วนหนึ่งของความเห็นชาวเน็จจากโพสต์ดังกล่าว
“คิดได้ไงเนี่ยสร้างหนังแบบนี้ หนังตลก หรือสนุกสนาน ที่เกี่ยวกับศรัทธาและความเชื่อทางศาสนา ขอให้กลับไปทบทวนใหม่นะคะ อย่าฉายหนังเรื่องนี้เลย”
“การไม่เคารพในความศรัทธาของผู้อื่น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมนะคะ ควรทบทวนการฉายหนังเรื่องนี้ด้วยค่ะ”
“คนรุ่นใหม่ๆเขาเบือนหน้าหนีศาสนาหมดแล้วจากข่าวของบุคคลที่ควรทำตัวสืบทอดหลักธรรมแต่เอามาหาผลประโยชน์เข้าตัวทั้งนั้น แต่มีการ์ตูนแบบนี้แหละทำให้คนหันกลับมามองศาสนาผ่านทางรูปแบบอื่นๆและอาจจะช่วยให้เข้าใจหลักธรรมผ่านทางตัวการ์ตูนได้ดีกว่าคนที่แอบหลังศาสนามาหาแดกหรือบทสวดที่ฟังไม่รู้เรื่องซะอีก”
“ห็นแล้วสงสารคนที่อาจจะไม่มีปัญญา หลงยินดี จะพลอยเป็นบาปกรรมติดตัวพวกเขาไป ตัวต้นเหตุที่ทำภาพยนต์นี้ ต้นเหตุที่เผยแพร่หนังนี้ รับบาปกรรมไปเต็มๆ กรรมที่ทำกับผู้ทรงคุณธรรมชั้นสูงที่สุดในจักรวาลนี้ คุณแน่ใจหรือว่าจะรับผลที่ทำนั้นไหว … อันนี้เตือนด้วยความหวังดี ก่อนจะสายเกินไป หยุดเถิด ความชั่วแม้เพียงนิด อย่าทำเลยเป็นดีที่สุด พระบรมศาสดาตรัสสอนไว้ ธรรมะต้องประกอบด้วย ความดี ความถูกต้อง และ ความเหมาะสม ลองถามตัวเองดู ภาพยนต์นี้มีครบ 3 สิ่งไหม ถ้าไม่ก็หยุดเถิด”
“พุทธสอนให้ปล่อยวางไม่ใช่หรอ ทำไมถึงยึดติดกันจัง แค่หนังเอง ในชีวิตจริงพระในวัดยังโกงเงิน ติดเหล้าติดหญิง ยิ่งกว่าในหนังอีก ยังมีภาพลักษณ์ดีๆเหลืออีกหรอ ปีนึงคดีพระแทบจะเดือนละเรื่อง”
“ถ้าได้ดูในฉบับอนิเมะหรืออ่านมังงะ จะรู้ว่ามันไม่ได้มีการดูหมิ่นศาสนาอะไรนะครับ ไม่มีอะไรดูหมิ่นศาสนามากกว่าวงการพระสงฆ์บ้านเราอีกแล้วนะ”
แม้ว่าทั้งมังงะ และ อนิเมชัน เรื่องนี้จะได้รับความนิยมในเกาะญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ทว่าในบ้านเรากลับไม่มีเจ้าไหนซื้อลิขสิทธิ์เข้ามา เพราะไม่มีสำนักพิมพ์หรือค่ายไหนที่จะยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงกับคำวิจารณ์เรื่องของศาสนา
ทั้งนี้ ศาสดาลาพักร้อน ฉบับมังงะ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2006 และได้ถูกนำไปทำเป็นอนิเมชันมาแล้ว รวมไปถึงมีการทำเป็นฉบับ Live Action ที่ถือว่าได้รับความนิยมจนได้ต่อยอดมาทำเป็นภาพ The Movie เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
โดยเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของ “พระเยซู” บุตรแห่งพระเจ้า และ “พระพุทธเจ้า” ผู้บรรลุธรรม ทั้งคู่แชร์ห้องอยู่ร่วมกันในอพาร์ตเม้น ห้องขนาด 6 เสื่อที่ไม่มีแม้แต่อ่างอาบน้ำในโตเกียว โดยทั้งคู่ได้พยายามใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ยุคปัจจุบัน
แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่ง ทูตสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้นและยื่นข้อเสนอต้องห้ามแก่พวกเขา ซึ่งกำลังใช้ชีวิตเพลิดเพลินไปกับวันหยุดพักผ่อน ในท้ายที่สุดนี้เรื่องราวจะพัฒนาไปสู่อันตรายครั้งใหญ่
อ้างอิง : Facebook Major Group
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง