“จตุพร” อ่านขาด เพื่อไทยต้ม “ส้ม” รอหลัง 9 ก.ย.แพแตก
"จตุพร" อ่านขาด เพื่อไทยต้ม "ส้ม" หน้ามืดรับปากทุกข้อ ขอเสียง แต่ขู่ยุบสภา แนะ ปชน.ใจร่มๆ อย่ารีบตัดสินใจเลือกนายกฯ พท. หรือ ภท. เชื่อรอหลังคดี 9 ก.ย. ส่อแพแตกย้าย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยประเมินสถานการณ์เลือกนายกฯ ใหม่ว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย อยู่ในอาการหน้ามืดทางการเมือง และถูกคดีชั้น 14 บีบรัด จึงเร่งรีบรับปากทุกข้อตกลงของพรรคประชาชน เพื่อหวังให้ได้เสียงมาโหวตนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ
"พรรคประชาชน เป็นต่อในเกมเลือกนายกฯ ดังนั้น ให้ยื้อไปหลัง 9 ก.ย. สถานการณ์คดีชั้น 14 จะบีบรัดคอเพื่อไทยไปเรื่อยๆ แม้เพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่คงเป็นได้ไม่นาน แต่หากพรรคประชาชน รีบตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมถูกอาการหน้ามืดหลอกให้รับปากทุกอย่าง เมื่อเพื่อไทยหรือภูมิใจไทย ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว พรรคประชาชน ย่อมหมดความสำคัญ"
อีกทั้งย้ำว่า คณะรวมพลังแผ่นดินชุมนุมเมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา แสดงจุดยืนชัดเจนไม่เอาแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และถ้าพรรคประชาชนไม่เลือกใครแล้ว เท่ากับเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ เพราะทำให้พรรคเพื่อไทยได้รักษาการนายกฯ แบบเป็ดง่อยไปเรื่อยๆ จนครบวาระ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผลการประชุมพรรคประชาชนยังไม่มีข้อสรุปจะเลือกนายกฯ จากพรรคใด สถานการณ์นายกฯ จึงอยู่ท่ามกลางรัก 3 เส้า แต่พรรคเพื่อไทยขู่ถ้าไม่เลือกนายกฯ จากเพื่อไทย ก็จะยุบสภา ดังนั้น ถ้าอยากยุบสภาพรรคประชาชนต้องเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯ พร้อมท้าทายพรรคเพื่อไทยให้ยุบสภาเลย เพื่อไม่ให้การเมืองอยู่กับความอึมครึม
"ความอีหลักอีเหลื่อเช่นนี้ จึงกดดันพรรคเพื่อไทยมากกว่า เพราะต้องตัดสินใจก่อน 9 ก.ย. นี้ ซึ่งศาลฎีกานักการเมืองจะตัดสินคดีชั้น 14 ของทักษิณ ชินวัตร ดังนั้น ถ้าการเลือกนายกฯ เดินไปถึง 9 ก.ย.แล้ว จะเป็นผลดีกับพรรคภูมิใจไทย เพราะจะเกิดสถานการณ์ทักษิณ ไปศาลหรือไม่ ถ้าไม่ไปแสดงว่า ไม่อยู่แล้ว อาจออกนอกประเทศ และถ้าไปฟังหากผลเป็นลบต้องกลับเรือนจำ ติดคุก"
นายจตุพร กล่าวว่า ภายในพรรคเพื่อไทยขณะนี้ สส.เริ่มแพแตกกัน หากทักษิณ ไม่ไปฟังการตัดสินของศาลแล้ว นักการเมืองระดับใหญ่จะทยอยอพยพออกจากพรรค อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคประชาชน ลากตัดสินใจโหวตให้ใครเป็นนายกฯ ไปหลัง 9 ก.ย. การอยู่หรือไม่อยู่ของทักษิณ จะทำให้เสียง สส.เพื่อไทยข้ามมาโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกฯ มากขึ้น รวมแล้วถ้าได้เสียงเกินครึ่งสภา คงไม่จำเป็น ต้องใช้เสียงจากพรรคประชาชนมาโหวตหนุนด้วย
ดังนั้น การเลือกนายกฯ ใหม่ จุดหักเหสำคัญจึงอยู่ที่ทักษิณกับคดีชั้น 14 ซึ่งต้องชี้ชะตากัน 9 ก.ย. สถานการณ์แบบนี้พรรคประชาชนคงแสดงจุดยืนแบบหล่อๆ ได้ไม่นาน แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยชิงยุบสภาก่อน แต่คงถูกร้องให้ศาล รธน.คุ้มครอง และชี้ขาดว่า รักษาการนายกฯ มีอำนาจยุบสภาได้หรือไม่
อีกทั้งกล่าวว่า การเมืองเดินมาถึงทางเลือกสำคัญ ถ้าพรรคประชาชนเอาพรรคเพื่อไทยต้องเจอกับขบวนประชาชนออกมาต่อต้าน และพรรคประชาชนจะตายไปกับพรรคเพื่อไทยในกระแสอารมณ์ชิงชัง ขยะแขยงกดดัน และเมื่อไปกอดกับพรรคล้มเหลวต่อการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งไม่มีผลงานแก้ปัญหาชาติตามนโยบายหาเสียงไว้
"ถ้าพรรคประชาชนไปเลือกเพื่อไทยแล้ว บาดแผลการเมืองแบบถูกหักหลัง ตระบัดสัตย์ ทรยศและฉีกสัตยาบันก็นำมาใช้ไม่ได้ เพราะไปคืนดีกันแล้ว ที่สำคัญพรรคเพื่อไทยยังรับปากนำ รธน. 40 มาใช้แก้ไข รธน. 60 ซึ่งทำไม่ได้ยังกล้าหลอก พูดส่งเดชไปเรื่อย"
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews