หุ้นของ “เอเวอร์แกรนด์” ถูกถอดจากตลาดหุ้นฮ่องกง
หุ้นของอดีตบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน “เอเวอร์แกรนด์” (Evergrande) ถูกถอดออกจากตลาดหุ้นฮ่องกงแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. หลังจากซื้อขายอยู่ในตลาดมานานกว่าทศวรรษครึ่ง
นับเป็นเหตุการณ์สำคัญอันน่าเศร้าสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีมูลค่าตลาดหุ้นมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) ก่อนที่บริษัทจะล่มสลายภายใต้ภาระหนี้มหาศาล
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนในครั้งนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และถือเป็นการสิ้นสุด
แดน หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายจีนของ Eurasia Group บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง กล่าวว่า “เมื่อถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้ว จะไม่มีทางกลับมาได้อีก”
ปัจจุบัน เอเวอร์แกรนด์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะส่วนหนึ่งของวิกฤตการณ์ที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายปีให้หลังมานี้
ฮุย กา หยาน ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท เริ่มต้นจากจุดเริ่มต้นอันแสนยากลำบากในชนบทของจีน จนติดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียของนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2017
นับตั้งแต่นั้นมา ทรัพย์สินของเขาร่วงลงอย่างหนักจากประมาณ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.46 ล้านล้านบาท) ในปี 2017 เหลือไม่ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในเดือน มี.ค. 2024 ฮุยถูกปรับ 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 210 ล้านบาท) และถูกห้ามเข้าตลาดทุนจีนตลอดชีวิต เนื่องจากบริษัทของเขารายงานรายได้เกินจริงถึง 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.5 ล้านล้านบาท)
บริษัทชำระบัญชีกำลังพิจารณาหาทางเรียกคืนเงินสดจากทรัพย์สินส่วนตัวของฮุย
ในช่วงเวลาที่บริษัทล้มละลาย เอเวอร์แกรนด์มีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาประมาณ 1,300 โครงการใน 280 เมืองทั่วประเทศจีน
อาณาจักรอันกว้างใหญ่นี้ยังรวมถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของจีนอย่าง กว่างโจว เอฟซี ซึ่งถูกขับออกจากลีกฟุตบอลเมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมาหลังจากไม่สามารถชำระหนี้ได้
เอเวอร์แกรนด์สร้างขึ้นจากเงินกู้ยืมมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.7 ล้านล้านบาท) ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก
การล่มสลายของเอเวอร์แกรนด์เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ทางการจีนออกกฎระเบียบใหม่ในปี 2020 เพื่อควบคุมจำนวนเงินที่ผู้พัฒนารายใหญ่สามารถกู้ยืมได้
มาตรการใหม่นี้ทำให้เอเวอร์แกรนด์ต้องเสนออสังหาริมทรัพย์ในราคาลดพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเงินเข้ามาประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด
บริษัทประสบปัญหาในการชำระดอกเบี้ย และในไม่ช้าก็ผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศบางส่วน และหลังจากข้อพิพาททางกฎหมายมาหลายปี ศาลสูงฮ่องกงได้มีคำสั่งให้บริษัทปิดกิจการในเดือนมกราคม 2024
หุ้นของเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกเพิกถอนจากการจดทะเบียนนับตั้งแต่นั้นมา เนื่องจากถูกระงับการซื้อขายตามคำสั่งศาล
ณ จุดนั้น วิกฤตการณ์ที่ครอบงำบริษัทได้ทำให้มูลค่าตลาดหุ้นของบริษัทลดลงมากกว่า 99%
คำสั่งชำระบัญชีมีขึ้นหลังจากที่บริษัทไม่สามารถเสนอแผนปฏิบัติการเพื่อลดภาระหนี้สินต่างประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ได้
ต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ชำระบัญชีเปิดเผยว่า หนี้สินของเอเวอร์แกรนด์ในปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และจนถึงขณะนี้ขายสินทรัพย์ไปได้เพียง 255 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.2 พันล้านบาท) เท่านั้น พวกเขายังกล่าวอีกว่า เชื่อว่าการยกเครื่องธุรกิจใหม่ทั้งหมด “จะเป็นไปไม่ได้”
การพิจารณาคดีชำระบัญชีครั้งต่อไปมีกำหนดในเดือน ก.ย.
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การล่มสลายของเอเวอร์แกรนด์รวมถึงปัญหาร้ายแรงที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นเผชิญอยู่ ส่งผลกระทบต่อประเทศจีนอย่างรุนแรง
แดน หวัง บอกว่า “ภาวะตกต่ำของอสังหาริมทรัพย์เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การบริโภคถูกกดลง”
เรื่องนี้เป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจจีน และเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลท้องถิ่น
เรียบเรียงจาก BBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หุ้นของ “เอเวอร์แกรนด์” ถูกถอดจากตลาดหุ้นฮ่องกง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com