ชายดับสยอง หลังกินปลาปักเป้า หัวใจหยุดเต้น 8 นาที พิษแรงกว่าไซยาไนด์พันเท่า
ชายบราซิลดับสยอง หลังนำปลาปักเป้าที่เพื่อนให้ มาทำอาหารกินเอง ก่อนที่ชาที่ปาก-หัวใจหยุดเต้น 8 นาที แพทย์ชี้ พิษร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ 1,000 เท่า ไม่มียาแก้พิษโดยตรง
อุทาหรณ์เตือนภัย ชายชาวบราซิลวัย 46 ปี เสียชีวิตลงหลังจากได้รับปลาปักเป้าเป็นของขวัญจากเพื่อน จากนั้นตัดสินใจนำมาปรุงอาหารกินเองเป็นครั้งแรก โดยไม่รู้ถึงวิธีการเตรียมที่ถูกต้องจนได้รับพิษร้ายแรงที่ทางการแพทย์ระบุว่ารุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,000 เท่า ไร้ปาฏิหาริย์เพราะไม่มีทางรักษา
สำนักข่าว New York Post เผยเรื่องราวของ ‘มักโน เซอร์จิโอ โกเมส’ วัย 46 ปี น้องสาวของเขาได้เปิดเผยว่าพี่ชายได้รับปลาปักเป้ามาจากเพื่อนคนหนึ่ง ด้วยความที่ไม่เคยลองกินมาก่อน เขาจึงไม่ทราบวิธีการจัดการกับพิษของมัน โกเมสเพียงแค่ควักไส้และเอาตับปลาออกไป ก่อนจะนำไปต้มแล้วกินกับน้ำมะนาว
เพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจากกินเข้าไป ทั้งโกเมสและเพื่อนก็เริ่มมีอาการผิดปกติ เขาเริ่มมีอาการชาที่ปาก ด้วยความกังวลว่าอาจถูกพิษจึงรีบขับรถไปยังโรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาล อาการชาก็ลุกลามไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว จากนั้นหัวใจหยุดเต้นนานถึง 8 นาที แม้แพทย์จะกู้ชีพกลับมาได้และต้องใส่ท่อช่วยหายใจแต่อาการของเขาก็เข้าขั้นวิกฤต
แพทย์วินิจฉัยว่าชายวัย 46 ปีได้รับพิษเตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) เป็นพิษร้ายแรงที่พบในอวัยวะบางส่วนของปลาปักเป้าและสัตว์ทะเลบางชนิด ซึ่งพิษแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนทำให้อวัยวะบางส่วนเป็นอัมพาต สามวันต่อมาเขาเริ่มมีอาการชัก และสมองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนแทบไม่มีโอกาสฟื้นตัว หลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 35 วัน สุดท้ายโกเมสก็เสียชีวิตลง ส่วนเพื่อนของเขารอดชีวิตมาได้แต่ได้รับผลกระทบทางระบบประสาททำให้เดินลำบาก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิษเตโตรโดท็อกซิน เป็นพิษร้ายแรงที่พบได้มากที่สุดใน ตับและอวัยวะสืบพันธุ์ (รังไข่) ของปลาปักเป้าบางสายพันธุ์ มีข้อมูลระบุว่าพิษรุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,000 เท่า และที่สำคัญคือยังไม่มียาแก้พิษโดยตรง
คุณสมบัติของพิษเตโตรโดท็อกซิน คือ ทนความร้อนสูง ฉะนั้นการต้มหรือปรุงอาหารด้วยวิธีทั่วไปไม่สามารถทำลายพิษได้หมด หากผู้ใดทานเข้าไปพิษจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วภายใน 5-15 นาที อาการเริ่มต้นคือ ชาที่ปาก, คลื่นไส้, น้ำลายไหลเยอะผิดปกติ ก่อนจะลุกลามไปสู่อาการชาที่ใบหน้า, อัมพาต, ปวดศีรษะ, ชัก, ระบบหายใจล้มเหลว, หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้ออกมาย้ำเตือนประชาชนว่า ห้ามซื้อขายหรือบริโภคปลาปักเป้าที่ไม่ทราบแหล่งที่มาและไม่ผ่านการปรุงจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตโดยเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและความปลอดภัยของชีวิต
ข้อมูลจาก : soha
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง