ทหารไทย ล้อมรั้วลวดหนามชายแดน 9.8 กม. สกัดแรงงานเถื่อน มิจฉาชีพ แก๊งคอลเซนเตอร์ลอบข้ามแดน
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2568 ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจ อรัญประเทศ เร่งดำเนินการติดตั้งรั้วลวดหนามหีบเพลง ตลอดแนวชายแดนในพื้นที่คลองพรหมโหด ตั้งแต่จุดตรวจอรัญประเทศ ที่สะพานคลองลึก หรือสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ไปจนถึงจุดตรวจอรัญประเทศ 31 รวมระยะทาง 9.8 กิโลเมตร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม เป็นต้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ สกัดกั้นและป้องกันการลักลอบข้ามแดน ของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และขบวนการมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มักใช้ช่องทางธรรมชาติในการหลบหนี รวมถึงป้องกันการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นๆ ตามแนวชายแดน
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นจุดล่อเเหลมที่ กลุ่มลักลอบทำผิดกฎหมาย มักใช้เป็นเส้นทางในการเข้า-ออกประเทศ เนื่องจากมีภูมิประเทศที่เอื้อต่อการหลบซ่อน-ข้ามเเดน การติดตั้งรั้วลวดหนามหีบเพลงในครั้งนี้ จะช่วยลดช่องว่าง และจำกัดการเคลื่อนที่ของกลุ่มคนเหล่านี้ได้
และเมื่อวานนี้ 10 ส.ค. 68 เพจเฟซบุ๊ก "Army Military Force" ก็ได้โพสต์ภาพและข้อความ โดยอ้างว่า… "สื่อเขมรเผยภาพ เมื่อช่วงเช้า วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ทหารไทยได้วางลวดหนามหีบเพลงที่ชายแดนปอยเปต" ต่อมาก็ได้โพสต์คลิป ทหารฝ่าเขมร ไปพบกระสุนปืน ค. 60 สภาพสนิมเกรอะ พร้อมกล่าวหาทหารไทยว่า… "ทหารไทยยิงกระสุนปืน ค. โจมตีไร่นาของชาวบ้านกัมพูชา" ซึ่งถ้าเราสังเกตสภาพกระสุนปืน ค. แล้วก็จะทราบได้ทันทีว่า ลูกกระสุนนี้มันเก่ามากๆ มีสนิมเกาะเต็มไปหมด ซึ่งน่าจะเป็นกระสุนเก่าเก็บ ใน "ยุคสงครามเวียดนาม" มากกว่า
"กัมพูชา" พา ผช.ทูตทหาร ลงพื้นที่ปะทะครั้งที่ 3
ขณะที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา เผยแพร่ข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่า ได้พาคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ประจำกรุงพนมเปญ 14 นาย จาก 9 ประเทศ ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับไทยในจังหวัดอุดรมีชัย
ภารกิจในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ช่วยทูตทหารต่างชาติ ได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน หลังกัมพูชาบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง โดยสื่อกัมพูชาเผยแพร่ข่าวนี้ พร้อมกับภาพถ่ายภารกิจ ซึ่งยังรวมถึงการเยือนพื้นที่อพยพเพื่อให้รับทราบถึงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า การลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ทางการพาคณะผู้แทนต่างชาติในกัมพูชา ซึ่งรวมถึงผู้แทนจากชาติสมาชิกอาเซียนและประเทศมหาอำนาจ สำรวจความเสียหายในหลายจุดตามแนวชายแดน นับตั้งแต่ไทยกับกัมพูชาทำข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้นำมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง
ต่อมาช่วงบ่าย กองทัพกัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารประจำพนมเปญ ทั้ง 9 ประเทศ ลงพื้นที่จุดที่กัมพูชาอ้างว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทยทิ้งระเบิด MK-84 ลงใส่บ้านเรือนประชาชนที่หมู่บ้าน ธมาดอน ในจังหวัดอุดรมีชัย จนได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา กัมพูชาได้พานักข่าวต่างประเทศไปดูลูกระเบิดที่หมู่บ้านธมาดอน (Thma Don) ในจังหวัดอุดรมีชัยมาแล้วเช่นกัน โดยกล่าวหาไทยทิ้งระเบิดใส่บ้านพลเรือนชาวกัมพูชาจนได้รับความเสียหายอย่างมาก กัมพูชาระบุต่อนักข่าวต่างประเทศว่า ลูกระเบิดดังกล่าวคือ "ลูกระเบิด MK-84 ที่ถูกทิ้งจากเครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทย