การลงทุนของจีนหนุนเป้าหมาย ‘ไทย’ เป็นศูนย์กลางส่งออกระดับโลก
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
กรุงเทพฯ, 11 ส.ค. (ซินหัว) — จุฬา สุขมานพ เลขาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย กล่าวว่าการลงทุนของจีนกำลังช่วยขับเคลื่อนโครงการมูลค่าสูงต่างๆ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูง และส่งเสริมความพยายามของไทยในการเป็นศูนย์กลางการส่งออกแห่งสำคัญของโลก
กลุ่มบริษัทจีนในฐานะนักลงทุนต่างชาติที่สำคัญได้นำเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น และแปลกใหม่มาสู่ไทย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการผลิตแบบดั้งเดิมที่มีนัยสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ โดยการเกิดขึ้นของ “เทคโนโลยีขั้นสูงของจีนที่ผลิตในไทย” ได้เสริมสร้างเป้าหมายของไทยในการเป็นประตูส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงสู่ตลาดโลก
แนวโน้มนี้ปรากฏชัดเจนที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ซึ่งบรรดาแบรนด์จีนชั้นนำอย่างบีวายดี (BYD) ฉางอัน (Changan) จีเอซี ไอออน (GAC Aion) เกรตวอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) และเอ็มจี (MG) ได้จัดตั้งโรงงานผลิตในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อตอบสนองทั้งตลาดไทยและตลาดส่งออก
การลงทุนของจีนยังพัฒนาห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดและโครงสร้างพื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ครอบคลุมแบตเตอรี่ สถานีชาร์จไฟ การกักเก็บพลังงาน จนถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติการลงทุนของ 21 โครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 3.86 แสนคันต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวม 1.37 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุว่าการผลิตยานยนต์ไฟฟ้านั่งส่วนบุคคลแบบใช้แบตเตอรี่ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนของปี 2025 อยู่ที่ 23,798 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 380 เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็นร้อยละ 3.28 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในไทย
ไทยตั้งเป้าหมายผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้ร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดต่อปีภายในปี 2030 เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่วิธีการเดินทางอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จุฬากล่าวว่านอกจากภาคยานยนต์ กลุ่มนักลงทุนจีนยังสนใจภาคเทคโนโลยีดิจิทัลและเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (BCG) ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตที่ยั่งยืนและหมุนเวียนได้ โดยไทยตั้งเป้าหมายเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับจีนและเป็นพื้นที่นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน พร้อมต่อยอด 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และความเชื่อมโยงอันแนบแน่นระหว่างประชาชน
เป้าหมายของไทยครอบคลุมการขยายความร่วมมือด้านการขนส่งอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งรถบัส รถบรรทุก และรถไฟที่ล้วนใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อการพัฒนา “ท่าเรือสีเขียว” ที่ดำเนินงานด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และคาดว่าจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีต้นกำเนิดจากจีนจำนวนมาก
จุฬาหวังว่าไทยจะกลายเป็นพื้นที่ที่สามารถแปรเปลี่ยน “เทคโนโลยีจากการวิจัย” สู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์สำหรับตลาดโลก โดยมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามูลค่ามหาศาลของจีนเป็นตัวช่วยสำคัญ