ช้างป่าแตกโขลงทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต

ช้างป่าแตกโขลงมาจากอำเภอภูหลวง จังหวัดเลย มาหากินในพื้นที่อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น ทำร้ายชาวบ้านที่ออกไปหากินตอนกลางคืนเสียชีวิต

วันที่ 20 ส.ค.68 ตำรวจภูธรสีชมพู จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมศรัทธาธรรมสีชมพูการกุศล จังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิตลอยในสระน้ำ พื้นที่ตำบลดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น โดยศพลอยคว่ำหน้าในหนองน้ำ

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวขึ้นมาสภาพศพอยู่ในสภาพเปลือยกาย ทราบชื่อต่อมาคือนายนิรันดร์ อายุ 52 ปี ตามร่างกายมีรอยช้ำตามลำตัว กระดูกแขนและขาทั้งสองข้างหัก มีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวไปพิสูจน์ต่อที่โรงพยาบาลสีชมพู

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณไร่อ้อยติดกับหนองน้ำ มีร่องรอยช้างเหยียบจนต้นอ้อยล้ม ที่พื้นพบรอยเท้าช้างและเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพฉีกขาดจากการถูกแรงกระชากอย่างแรง และยังมีพบรอยเท้าช้างไปทางหนองน้ำ

เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตได้ออกมาปักเบ็ดปลาไหลในช่วงกลางคืน เป็นช่วงที่ช้างป่ากำลังออกหากินและมาพบช้างป่าที่กำลังหากินใกล้หนองน้ำ ก่อนจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จนกระทั่งเจ้าของที่นาได้มาพบในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จนกระทั่งทราบว่าถูกช้างป่าทำร้าย

นายคมสัน ทุมโคตร ผู้ใหญ่บ้านเขาสัพยา หมู่ 11 ตำบลดงลาน บอกว่าขณะนี้ช้างป่าในพื้นที่ตำบลดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น พบช้างป่าจำนวน 3 ตัว คืองาจิ๋ว รถถัง และหลอน โดยเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และผู้นำชุมชนได้มีการผลักดันช้างจนเข้าไปอยู่ในป่าชุมชน ในพื้นที่บ้านวังขอนแดง จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น.จึงได้ยกเลิกภารกิจผลักดันช้างป่าและในเวลา 03.00 น.ได้มาตรวจสอบจุดใกล้กับที่เกิดเหตุ

ซึ่งตอนนั้นไม่พบชาวบ้านแต่อย่างใด และคาดว่าผู้เสียชีวิตได้เข้ามาที่เกิดเหตุในช่วงใกล้เช้ามืด และมาเจอช้างป่าที่กระท่อม ก่อนจะเจอช้างป่าแล้ววิ่งหลบเข้าไปในไร่อ้อย แต่ถูกช้างป่าตามทันแล้วทำร้าย ก่อนที่จะลากร่างลงน้ำแล้วช้างป่าได้ไปอยู่ในป่าชุมชนใกล้เคียง

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีความพยายามกดดันช้างป่าเพื่อให้ข้ามลำน้ำพองไปเขตอำเภอภูกระดึง เพื่อให้ช้างกลับไปรวมโขลงในพื้นที่อำเภอภูหลวงจังหวัดเลย แต่ช้างป่าได้แตกโขลงเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นจำนวน 4 ตัว โดยอยู่ที่อำเภอสีชมพูจำนวน 3 ตัว และที่อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 ตัว และมีเจ้าหน้าที่และผู้นำขุมขนคอยติดตามช้างทุกวัน พร้อมกับการแจ้งข่าวเตือนประชาชนในจุดที่ช้างหากินและเข้าพัก โดยเมื่อวันที่ 3 เม.ย.67 ที่ผ่านมาช้างป่าได้ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตมาแล้ว 1 ราย ในพื้นที่อำเภอสีชมพู จนกระทั่งล่าสุดช้างป่าได้ก่อเหตุทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตเป็นรายที่ 2