เวียดนามเตรียมเปิดกระดานเทรดสตาร์ทอัพ เพิ่มช่องระดมทุน-เสริมแกร่งนวัตกรรมประเทศ
เวียดนามเตรียมเปิดกระดานเทรดสตาร์ทอัพ เพิ่มช่องระดมทุน-เสริมแกร่งนวัตกรรมประเทศ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -21 ส.ค. 68 15:38 น.
เวียดนามเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นสำหรับสตาร์ทอัพเป็นแห่งแรก เพื่อให้บริษัทด้านเทคโนโลยีสามารถระดมเงินทุนและต่อยอดสู่การสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรม
นาย Hoang Minh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเวียดนาม ได้ประกาศแผนดังกล่าวเมื่อเดือนก.ค. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายและจัดทำหลักเกณฑ์ ซึ่งรวมถึงแผนการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์สำหรับสตาร์ทอัพที่ถกเถียงมานาน โดยคาดว่าจะมีการเสนอให้รัฐบาลพิจารณาในเดือนต.ค. นี้ โดยแผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตามมติข้อที่ 57 ของคณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo) ที่มุ่งผลักดันให้เวียดนามก้าวสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ตามมาตรา 41 ของกฎหมายฉบับใหม่ ตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม (VNX) และบริษัทในเครือจะจัดตั้งกระดานซื้อขายเฉพาะสำหรับสตาร์ทอัพ โดยผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมได้นั้นจะครอบคลุมนักลงทุน, กองทุน VC (Venture Capital) ทั้งระดับประเทศและระดับจังหวัด, กองทุนพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขององค์กร, บริษัทร่วมลงทุนทั้งในและต่างประเทศ, สถาบันการเงิน, นักลงทุนสตาร์ทอัพที่ได้รับการรับรอง และกลุ่มวิสาหกิจที่มุ่งเน้นด้านนวัตกรรม
หลักเกณฑ์และโครงสร้างแพลตฟอร์ม
รัฐบาลจะออกหลักเกณฑ์โดยละเอียดเกี่ยวกับการจดทะเบียน เงื่อนไขการเข้าจดทะเบียน และข้อบังคับในการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งออกแบบมาเพื่อสะท้อนความเสี่ยงของบริษัทสตาร์ทอัพที่ยังไม่สามารถทำกำไรได้ในช่วงแรก ซึ่งแพลตฟอร์มใหม่นี้ไม่ใช่การแยกออกมาตั้งตลาดหลักทรัพย์อีกตลาด แต่การซื้อขายจะทำภายใต้ตลาดหลักทรัพย์ฮานอยหรือโฮจิมินห์ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ สตาร์ทอัพของเวียดนามอาจเลือกเข้าเทรดในตลาดหุ้นของประเทศได้
ข้อมูลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระบุว่า เวียดนามมีสตาร์ทอัพมากกว่า 4,000 แห่ง โดยมี 11 บริษัทที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านดอลลาร์, มี Co-working space 202 แห่ง, กองทุนเพื่อการลงทุน 208 แห่ง และองค์กรที่คอยสนับสนุนธุรกิจอีก 35 แห่ง
อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ซึ่งมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับการยอมรับเพียง 4 แห่ง ได้แก่ VNG, MoMo, VNLife (VNPay) และ Sky Mavis
ความท้าทายและโอกาสในตลาดทุน
นาย Tuan Hiep Pham ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของ BK Holdings ตั้งข้อสังเกตว่า การวางรากฐานทางกฎหมายยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยคาดว่า กระทรวงการคลังจะร่วมมือกับคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐและ VNX จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการวางกรอบการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้
แพลตฟอร์มนี้จะเป็นเครื่องมือในการกำหนดมาตรฐานติดตามการดำเนินงานของสตาร์ทอัพ เพิ่มความโปร่งใส และการสนับสนุนจากรัฐบาลได้ตรงจุด นอกจากนี้ยังเพิ่มสภาพคล่องในตลาดและเพิ่มโอกาสในการถอนทุนสำหรับกองทุนที่ร่วมลงทุนได้
ปัจจุบัน เวียดนามยังขาดช่องทางในการคืนทุนสำหรับกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ขณะที่การเสนอขายหุ้น IPO และการควบรวมกิจการ ซึ่งเป็นช่องทางถอนทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีแนวโน้มลดลง โดย Trung Hoang จาก VinaCapital Ventures กล่าวกับ DealStreetAsia ว่า "นักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญกับโอกาสที่จะคืนทุนจริงมากกว่าเมื่อก่อน จึงระมัดระวังในการลงทุนใหม่มากขึ้น"
นอกจากนี้ นาย Pham ยอมรับว่าเวียดนามเข้าสู่ตลาดนี้ช้า และแนะนำให้ศึกษาแนวทางจากตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์, เกาหลีใต้, อิสราเอล และสหรัฐฯ พร้อมทั้งเรียกร้องให้กำหนดหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนที่เหมาะสมกับขนาดเศรษฐกิจของเวียดนาม
แม้แพลตฟอร์มใหม่นี้จะมีโครงสร้างที่ซับซ้อน แต่กรอบเวลาในการจัดตั้งถือว่ามีความเหมาะสม โดยมูลค่าการซื้อขายรายวันในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ซิตี้ ทะลุเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบปีต่อปี ในขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามเตรียมปรับสถานะขึ้นเป็นตลาดเกิดใหม่
ที่มา Nikkei Asia
รายงาน โดย Supak Hopuengju เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ