ทลายแก๊งหลอกเทรดหุ้น Huione Pay ยึดเงินสดกว่า 46 ล้าน
วันนี้ที่กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติ “SKYFALL”บุกทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติผ่าน Huione Pay ยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาท
โดยปฏิบัติการในครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ กก.3 บก.ปอท. ว่าถูกมิจฉาชีพชักชวนลงทุนเทรดหุ้นอ้างได้ผลกำไรตอบแทน 10 % และถอนเงินได้จริง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีม้านิติบุคคล ชื่อบัญชี บจก. ยูเลล่า เทรดดิ้ง 999 จำนวนหลักแสนบาท ซึ่งในตอนแรกพบว่าสามารถถอนเงินพร้อมกำไรได้จริง จึงได้โอนเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านบาทรวม 18 ครั้ง เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท โดยใช้เวลาในการโอนและลงทุนดังกล่าวกว่า 2 เดือน ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกและไม่สามารถถอนเงินได้ จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า หลังจากที่บัญชีม้าต่างๆได้รับเงินแล้วจะมีการเปลี่ยนเงินเป็น Cryptocurrency ผ่านแพลตฟอร์มของไทยจากนั้นจะโอน Cryptocurrency สกุล USDT ต่อไปยัง Private Wallet จำนวนหลายกระเป๋าเพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยพบว่าบัญชีม้าทั้งหมดมีการทำรายการที่ตึกออฟฟิศ ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน Cryptocurrency พบว่ามีการโอนไปยัง Wallet ของ Huione Pay ของประเทศกัมพูชา เพื่อฟอกเงิน ก่อนจะถูกโอนต่อไปยัง Wallet ของผู้รับผลประโยชน์อีกจำนวนหลาย Wallet ก่อนจะโอนมาให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในนคดีนี้ที่เป็นชาวเมียนมา
โดยพบว่าจะมีการรับโอน Cryptocurrency สกุล USDT วันละประมาณ 20-30 ล้านบาท แล้วจะเปลี่ยนเป็นเงินสดผ่านแพลตฟอร์ม Cryptocurrency ต่างๆ เพื่อนําเงินสดเข้าบัญชีธนาคารไทยของกลุ่มผู้ต้องหา และไปถอนเงินสดที่ธนาคารในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก วันละประมาณ 20-30 ล้านบาท โดยเมื่อถอนเงินแล้วจะนำเงินสดให้ชายเมียนมา ขนข้ามชายแดนบริเวณด่าน ตม.แม่สอด ไปส่งยังฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ต่อไป โดยพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการถอนเงินสดกว่าเดือนละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งการตรวจสอบภาพรวมพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 20,000 ล้านบาท ในกระเป๋า Wallet มีการถอนเงินสดไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท
ต่อมาตํารวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 28 คน เป็นกลุ่มบัญชีม้า จำนวน 24 คน และ ชาวเมียนมา ผู้รับผลประโยชน์จำนวน 4 คน และได้นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอดเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวเมียนมาจำนวน 3 ราย พร้อมตรวจยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาท เครื่องนับธนบัตร สมุดบัญชีธนาคารและโทรศัพท์มือถือ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่าคดีนี้มีความเชื่อมโยงกับ นายก๊ก อาน หรือไม่ พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. ระบุ ขณะนี้ยังไม่ชี้ชัดเจนว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่าย “ก๊ก อาน” ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลโดยตัวการหลักเป็นนายทุนชาวจีน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews