ไมเนอร์ โฮเทลส์ ปักหมุด “อวานี สิงคโปร์” แห่งแรก เตรียมเปิดบริการปี 2570
ไมเนอร์ โฮเทลส์ ฉลองก้าวสำคัญด้วยการวางศิลาฤกษ์โครงการโรงแรมอวานีแห่งแรกในสิงคโปร์ บนถนน Peck Seah ย่านตันจงปาการ์ ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญ โรงแรมไลฟ์สไตล์สูง 14 ชั้น ขนาด 200 ห้อง มีกำหนดเปิดให้บริการไตรมาส 2 ปี 2570 ภายใต้ความร่วมมือกับ Kajima Development และ Al Wathba Investment สะท้อนความเชื่อมั่นต่อตลาดท่องเที่ยวสิงคโปร์จากนักลงทุนระดับโลก
นายวิลเลียม อี. ไฮเน็ค ประธานและผู้ก่อตั้ง ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้กล่าวว่า “พิธีวางศิลาฤกษ์ในวันนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ที่ได้นำแบรนด์อวานีมาสู่สิงคโปร์ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรที่ไว้วางใจได้อย่าง Kajima และ Al Wathba เรากำลังสร้างสรรค์โครงการที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศ แต่ยังเฉลิมฉลองเอกลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและความทันสมัยของเมืองแห่งนี้อีกด้วย”
โดยโรงแรมอวานี สิงคโปร์ แห่งใหม่ ขนาด 200 ห้อง ตั้งอยู่ใจกลางย่านตันจงปาการ์ ผสานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของสิงคโปร์เข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยในแบบฉบับอวานี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำบนดาดฟ้า ห้องออกกำลังกาย อวานี ฟิต (AvaniFit) ร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์ และทางเดินเชื่อมระหว่างถนน Peck Seah และ Tras Street ทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินตันจงปาการ์ไม่ถึง 200 เมตร และห่างจากสถานีแมกซ์เวล (Maxwell) เพียง 350 เมตร จะช่วยมอบการเชื่อมต่อที่สะดวกสบายไปยังย่านดาวน์ทาวน์ มารีน่า เบย์ และย่านสำคัญอื่น ๆ ทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ
ทางด้าน ฯพณฯ โมฮาเหม็ด ไซฟ์ อัล สุไวดี กรรมการผู้จัดการ Al Wathba Investment กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของก้าวสำคัญนี้ พิธีวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างประสบการณ์ด้านการบริการและการต้อนรับที่มีเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของสิงคโปร์และพลังแห่งความร่วมมือของเรา”
และนายชูอิจิ โออิชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Kajima Development ยังได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “พิธีวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราต่อสิงคโปร์ และความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของวงการการบริการของที่นี่ เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เริ่มต้นโครงการที่มีส่วนส่งเสริมอนาคตของเมืองในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกร่วมกับพันธมิตรของเรา”