’โบว์ แวนด้า‘ เผยนาทีระทึก โจรขโมยรองเท้า5คู่ ย้ำสงสารแต่ต้องรับผล!
จากกรณีที่ “โบว์ แวนด้า” ภรรยาดารานักแสดงชื่อดัง “ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์” พระเอกชื่อดังที่เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ได้เดินทางเข้าแจ้งความว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านพักย่านซอยลาดพร้าว 48 และขโมยรองเท้าไป 5 คู่ มูลค่ารวมกว่า 16,800 บาท ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้เป็นที่เรียบร้อย ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด สาวโบว์ ได้มาร่วมงานโครงการ "Dance Project 2025" พลังเด็กเปลี่ยนโลก ก็ได้อัปเดตถึงคดีความ รวมถึงเรื่องราวของ ”น้องมะลิ“ ลูกสาวคนโปรด ที่มีการเขียนข้อความซึ้งๆ ในวันแม่
โบว์ เผยว่า “สำหรับเหตุการณ์ของคดีความที่มีการแจ้งความเรื่องโดนขโมยรองเท้า เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ สถานที่มันเกิดที่ออฟฟิศ แต่ที่เกิดเหตุมันเป็นบ้านของน้องสาว ซึ่งมันก็เป็นโกดังเก็บของด้วย คือน้องไม่ได้ล็อคประตูรั้ว เราก็ตำหนิน้องไปแล้วว่า ถ้าเราล็อกมันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่พอมันเกิดเหตุการณ์ขึ้น เขาบอกว่ารองเท้ามันหายไป 5 คู่ แล้วตรงที่เราอยู่มันไม่เคยมีขโมยเลย อยู่มา 30 ปีแล้ว ตอนแรกก็ว่าจะเอายังไงดี จะไปแจ้งความดีไหม เราคิดแค่ว่า แค่รองเท้ามันหาย แต่เราต้องแจ้ง เพราะว่าวันนี้มันเป็นรองเท้าแต่ไม่รู้ว่าวันหน้าจะอะไร ก็เลยไปแจ้งความแถวบ้าน ซึ่งรองเท้าที่โดนขโมยไปเป็นของน้องสาว มูลค่าไม่ได้สูง แต่ด้วยวันนั้นความที่เราตกใจ เรามีกล้องวงจรปิด แล้วรูปพรรณสันฐานขโมยก็ค่อนข้างจะชัดเจน ก็เลยลงโซเชียลไปว่า มีค่านำจับ 20,000 อะไรประมาณนี้ ก็อยากจับให้ได้ไวๆ แต่พอผ่านคืนนั้นไป ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ก็เลยไปแจ้งความ
แต่ด้วยที่คดีมันเร็ว เพราะหนึ่ง หลักฐานเราแน่นมาก ทั้งกล้องวงจรปิด เวลา และกล้องของทางกทม. ด้วย มันก็จะมีคนที่บอกว่า มีชื่อนี่ คดีมันก็เลยเร็วมาก ก็อยากจะบอกว่า ถ้าหลักฐานเราแน่น การทำงานของตำรวจก็จะเร็วขึ้น ซึ่งคดีนี้ตำรวจใช้เวลาทำงานประมาณสองวัน ก็อย่างที่บอกไปว่าหลักฐานทางเรานำไปให้เขามันเยอะมาก เยอะจนแกะรอยได้ง่ายมาก แล้วตอนนี้ก็คือจับได้แล้ว ซึ่งเป็นคุณลุง ค่อนข้างมีอายุประมาณ 50 กว่า เราถามเขา เขาก็บอกว่าเพิ่งออกมาจากคุก พ้นโทษมาได้เดือนเดียว แล้วไม่มีอะไรทำ ไปไหนใครก็ไม่รับ เราก็เลยบอกกับคุณลุงว่า อโหสิกรรมนะ แต่ก็ตามกฎหมาย ทำอะไรไว้ก็รับไป ซึ่งเราก็สงสาร แต่ก็ตามนั้น เพราะเขาทำอาชีพ เวลาที่เขาออกไปขโมยตามพื้นที่ที่เกิดเหตุ เขาออกทุกวัน เวลาเดิมทุกวัน ซึ่งเราก็ไม่ใช่เคสแรกที่โดน ตอนที่ไปที่เกิดเหตุรองเท้าเยอะมาก ส่วนใหญ่ที่เห็นก็เป็นรองเท้าอย่างเดียว เราถามไปว่าต้องเอารุ่นรองเท้าหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ คู่ใหม่เขาก็เอา แล้วเขาก็เอาไปขายตลาดนัด
ซึ่งพอทางด้านตำรวจจับตัวคุณลุงมาได้แล้ว เราก็บอกกับคุณลุงว่า ต้องคิดให้ได้แล้วนะ เพราะรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ดูเหมือนว่าคุณลุงเขาจะมีคดีด้วย มีอยู่คดีนึงที่ยังตามหาอยู่ ก็จบทีเดียวเลย ก็อยากจะฝากบอกทุกคนว่า ให้ล็อคบ้านให้ดี ตรวจตราให้เรียบร้อย มันอาจจะไม่เกิดเหตุแบบโบว์ก็ได้ อันดับแรกเราต้องโทษตัวเราก่อน ที่เราไม่ระมัดระวังเอง ก็ล็อคประตูบ้านไว้ค่ะ
ส่วนในเรื่องวันแม่ที่ผ่านมา ที่น้องมะลิได้มีการเขียนการ์ดวันแม่ให้ ความรู้สึกที่อ่าน ก็เป็นแบบนี้ทุกปี ก็จะมีข้อความในจดหมาย แต่ละปีจะไม่เหมือนกัน ซึ่งปีนี้ก็จะเป็นข้อความที่เค้าโตขึ้น แล้วก็แอบเป็นห่วงเราเรื่องการใช้ชีวิตคนเดียว ซึ่งก็ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไรก็ให้การ์ดตามปกติ ซึ่งปีนี้ก็มีข้อความถึงคุณพ่อด้วย เขียนประมาณว่า “พ่อไม่อยู่แล้ว อยากให้แม่เข้มแข็ง” แล้วก็ใช้ชีวิตให้มีความสุข ความรู้สึกที่เราอ่านตอนนั้นก็แอบเป็นห่วงเขา แต่เชื่อว่าเขาผ่านมาได้แล้ว
หลายคนชมว่าตอนนี้น้องโตแล้วสวยขึ้นมาก ถามว่ามีเดินเส้นทางบันเทิงตามรอยคุณพ่อ คุณแม่ไหม ไม่มีเลย ทุกวันนี้ก็เลี้ยงเขาให้เขาใช้ชีวิตเด็กให้เต็มที่ และอยากให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ในเรื่องการเป็นศิลปินหรือคนในวงการเราก็ไม่ได้คิด เน้นชีวิตเขาเป็นหลัก ส่วนเรื่องแววของน้อง ต้องให้คนดูตัดสินค่ะ ซึ่งวันนี้น้องก็มาขึ้นโชว์ น้องก็พัฒนาในทุกๆปี เก่งไม่เก่งเราไม่รู้ แต่ในทุกๆปีเขาพัฒนาขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นค่ะ“