สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 16 ส.ค. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เพชรบูรณ์ (149 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.นครราชสีมา (109 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (52 มม.) ภาคกลาง : จ.ลพบุรี (106 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (237 มม.) ภาคใต้ : จ.ระนอง (145 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 16 - 18 ส.ค. 68”ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่าน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,234 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 49% (28,116 ล้าน ลบ.ม.)
3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 16/2568 เรื่องเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 15 - 17 ส.ค. 68 ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.น่าน จ.ตาก จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.อุดรธานี จ.สกลนคร และ จ.อุบลราชธานี ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ภาคใต้ บริเวณ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก และขอให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนผาจุก จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ให้สอดคล้องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุด
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำอิง และแม่น้ำยม
4. เฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 68 นางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมการประชุมคณะทำงานของคณะกรรมการร่วม คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 47 (The 47th Meeting of the MRC Joint Committee Task Force: JCTF) ณ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือประเด็นสำคัญเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ MRC ครอบคลุมการเสนอปรับปรุงคู่มือขององค์กร โดยผู้แทนประเทศสมาชิกได้ร่วมกันพิจารณาข้อเสนอและเห็นชอบร่วมกันในการปรับปรุงคู่มือฯ ใน 4 ประเด็นหลัก ดังนี้
1) ด้านทรัพยากรบุคคล (HR Manual) ในเรื่องเงินอุดหนุนบุตรให้คงสิทธิเดิม แต่ปรับถ้อยคำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
2) ด้านทรัพยากรบุคคล (HR Manual) ในเรื่องเงินอุดหนุนคู่สมรส เห็นชอบตามข้อเสนอ
3) การบริหารจัดการ (Administration Manual) ในประเด็นการปรับปรุง “Documentation Centre” เป็น “MRC Education and Visitor Center (EVC)” อย่างเป็นทางการ
4) การปรับปรุงนโยบายการเดินทางโดยรถไฟ ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวจะเสนอเพื่อพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการร่วม (JC) ซึ่งกำหนดจัดในเดือนกันยายนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ส.ค. 68