การเมืองไทย หากประกาศยุบสภา ประเทศจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
สถานการณ์การเมืองไทยในเดือนกันยายน 2568 ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจมีการยุบสภาหรือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พร้อมกับรัฐมนตรีทั้งคณะ จากกรณีคลิปเสียงการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
นับจากวันที่ 29 สิงหาคม ประเทศไทยมีรัฐบาลรักษาการทำหน้าที่บริหารประเทศในกรอบอำนาจที่จำกัด ในภาวะสุญญากาศนี้ได้เปิดฉากเกมการเมืองครั้งใหม่ขึ้นทันที บรรดาพรรคการเมืองต่างเร่งเครื่องเจรจาต่อรองเพื่อรวบรวมเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง เพื่อช่วงชิงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
ขณะที่พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลเดิมที่เพิ่งสิ้นสุดลง ก็กำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อรวบรวมเสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวหนาหูถึงอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญหากการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นผลสำเร็จ อาจส่งผลให้เกิดการตัดสินใจ “ยุบสภาผู้แทนราษฎร” เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินผ่านการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง
ทางเลือกในการยุบสภาฯ กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างยิ่งว่า หากยุบสภาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แล้วกระบวนการทางกฎหมายที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างไรบ้าง
ขั้นตอนทางกฎหมายหากประกาศ “ยุบสภาฯ”
เมื่อนายกรัฐมนตรีรักษาการตัดสินใจประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร จะมีขั้นตอนสำคัญที่ตามมาอย่างเป็นลำดับตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ดังนี้
1. พระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ: การยุบสภาฯ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี (มาตรา 103) โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์และนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร
2. สส. พ้นสภาพทันที: หลังมีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ในราชกิจจานุเบกษา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทุกคนจะพ้นจากตำแหน่งทันที ส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง
3. รัฐบาลรักษาการ: คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อทำหน้าที่เป็น "คณะรัฐมนตรีรักษาการ" ต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและไม่เกิดภาวะชะงักงัน อย่างไรก็ตาม อำนาจของรัฐบาลรักษาการจะถูกจำกัด ไม่สามารถอนุมัติโครงการที่มีผลผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป หรือแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
4. กกต. จัดการเลือกตั้งใหม่: รัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต. ต้องกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 5 วันนับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ และวันเลือกตั้งจะต้องจัดขึ้นภายในกรอบเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับจากวันยุบสภาฯ
5.สู่การเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่: เมื่อประกาศวันเลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองและผู้สมัครจะเข้าสู่โหมดการหาเสียงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศอีกครั้ง
- หลังการเลือกตั้งและนับคะแนน กกต. จะประกาศผลอย่างเป็นทางการ
- ภายใน 15 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง จะมีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาฯ
- ลำดับถัดไปคือกระบวนการเสนอชื่อและลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้แจ้งไว้
- เมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ (ไม่เกิน 35 คน)
- คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และเริ่มปฏิบัติภารกิจบริหารประเทศอย่างเต็มตัวต่อไป
โดยสรุปแล้ว หากมีการประกาศยุบสภาฯ คาดว่ากระบวนการทั้งหมดนับตั้งแต่วันยุบสภาจนถึงวันที่ประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่ที่สมบูรณ์จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งประชาชนชาวไทยจะต้องจับตาสถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้มข้นนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
ข้อมูล: รัฐบาลไทย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : การเมืองไทย หากประกาศยุบสภา ประเทศจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “อนุทิน” เดินสายทาบกล้าธรรม สะพัดเสียงหนุนนั่งนายกฯ ทะลุ 280 ลือมี 15 สส.เพื่อไทยด้วย
- ยังกั๊กท่าที “พรรคกล้าธรรม” ขอฟังเสียงสมาชิกก่อนตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล
- ครม. นัดพิเศษ รมต.แจ้งลา 7 คน เพื่อไทย 3 กล้าธรรม 3 รทสช. 1
- พรรคประชาชน ปัดได้ดีล 8 เก้าอี้ รมต. ย้ำตามเงื่อนไขที่แถลง ขอเป็นฝ่ายค้าน
- เอกชนขอตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ผวาเศรษฐกิจชะงัก! เชื่อมั่นหด! ท่องเที่ยวลด! ลงทุนหาย!
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath