ตำรวจอยุธยาไล่ล่า 2 เก๋ง ซุกต่างด้าวหนีเข้าเมือง 14 คน
(14 ส.ค. 68) สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บก.ทล.,บก.ป.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.ตม.3,บก.สส.สตม.) สืบทราบว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจึงได้มีการเฝ้าระวังในพื้นที่ จ.อ่างทอง,จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้น พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.๑ บก.สส.สตม.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมบูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่
จนกระทั่งวันที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางโดยพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ HANDA CIVIC สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ชล – 4614 กรุงเทพมหานคร ลักษณะตรงตามข้อมูลการสืบสวนที่ได้มาวิ่งมาบนถนนสายเอเชีย(ขาเข้า) อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ลักษณะติดฟิล์มมืดทึบขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วมีเหตุอันควรต้องสงสัย โดยมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ TOYOTA Yaris สีแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 6 ขฐ – 7481 กรุงเทพมหานคร ขับตามมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.51-52 ถนนสายเอเซีย(ขาเข้า)ทล.32 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เข้าเขตติตต่อ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว เบื้องต้นสอบถามชื่อ นายสายชล อายุ 48 ปี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ รถยนต์เก๋งยี่ห้อHANDA CIVIC สีเทา และพบบุคคลคล้ายต่างด้าวที่นั่งเบาะโดยสารภายในรถยนต์ 7 คน ชาย2 หญิง 5 ราย
ส่วนนาย นายอัมรงค์ อายุ 55 ปี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ ยี่ห้อ TOYOTA Yaris สีแดง โดยสารภายในรถยนต์ 7 คน ชาย 3 คน หญิง 4 คน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถามนาย คนขับรถทั้ง 2 ราย ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2568 ได้รับการติดต่อจากแอพพลิเคชั่นไลน์ใช้ชื่อว่า มั่งมีศรีสุข ติดต่อให้ขับรถไปรับคนต่างด้าวที่ พื้นที่ จ.ตาก เพื่อมาส่งปลายทาง กรุงเทพมหานคร โดย นายสายชล อ้างว่า ตนจะได้ค่าจ้างการขนหัว 400 บาท ต่อคนต่างด้าว 1 คน โดยจะได้รับค่าจ้างเมื่อส่งคนต่างด้าวถึงปลายทางและตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทางจนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ
จากการสอบถาม แรงงานต่างด้าว ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า ใช้ช่วงวันหยุดยาวของประเทศไทย ตั้งแต่ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ได้หลบหนีเดินทางจากฝั่งเมียนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยยังไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าจากนั้นจะเดินข้ามมาช่องทางธรรมชาติ พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเดินทางไป กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา คนขับทั้ง 2 ราย ในข้อกล่าวหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
แรงงานต่างด้าว ทั้งหมด 14 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ภ.จว.อ่างทอง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป