The Wine Merchant Silom ร้านไวน์ย่านสีลมที่พร้อมเสิร์ฟอาหารยูโรเปียนโฮมคุกคู่ไวน์ที่คัดสรรจากทั่วโลก

ลองคิดดูสิว่าจะดีแค่ไหน หากเราให้รางวัลตัวเองด้วยการดื่มด่ำไปกับอาหารยูโรเปียนโฮมคุกแสนอร่อยที่ยกระดับด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยม คู่ไปกับไวน์ดีๆ ที่ให้บริการแบบ By Glass ให้เลือกแพร์ริ่งกับอาหารแต่ละจานได้ตามใจ คิดแล้วก็มาที่ The Wine Merchant Silom เลยดีกว่า ร้านอยู่อาคาร Park Silom ชั้น G และที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ไวน์ แต่ยังมีอาหารจานอร่อยจาก เชฟซัน- ศิลา แสงศิลาวุฒิกุล Head Chef รอต้อนรับแขกที่ตั้งใจมาฝากท้องอีกด้วย

ขอย้ำว่ามาให้ถูกสาขา เพราะ The Wine Merchant มีหลายสาขาและไม่ได้ให้บริการมื้ออาหารเช่นนี้ทุกสาขา แต่สิ่งที่มีเหมือนกันทุกที่คือซอมเมอลิเยร์ (Sommerlier) ที่มีใบรับรอง เป็นผู้ให้คำแนะนำในการเลือกไวน์ได้ตรงใจ และยังให้บริการไวน์แบบ By Glass (เสิร์ฟเป็นแก้ว) ในแก้ว Zalto แบรนด์เครื่องแก้วชั้นนำจากเดนมาร์กที่มีเนื้อแก้วบางเบาช่วยโอบอุ้มกลิ่นของไวน์ได้ดี มอบประสบการณ์การดื่มไวน์อย่างเหนือระดับเฉกเช่นร้านไฟน์ไดนิง

เมื่อผ่านบริเวณร้านค้าของ The Wine Merchant Silom เข้ามา จะพบโซนร้านอาหาร “Beccheria at the Wine Merchant” ที่โดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดไหญ่เรียงรายด้วยขวดไวน์หลายลาเบล มีทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง ไวน์โรเซ่ ไปจนถึงไวน์ขวดแมกนั่ม นอกจากจะสับเปลี่ยนมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองแบบ By Glass เสมอแล้ว ยังสามารถเลือกคอร์ส Blind Tasting เพื่อสนุกกับกิจกรรมชิมไวน์และสนทนาเรื่องไวน์กับ คุณเมธวิน ธเนศวรอาภรณ์ Certified Sommelier (Court of Master Sommeliers) ซอมเมอลิเยร์และผู้จัดการสาขาได้ด้วย

Beccheria เป็นภาษาอิตาเลียนแปลว่าร้านขายเนื้อ แน่นอนว่าที่นี่มีตัวเลือกของชีสและชาร์กูเตอรีชั้นเลิศไว้ให้ลูกค้ากินคู่ไวน์มากมาย เพิ่มเติมคืออาหารครบครันตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อย จานหลัก และของหวาน ส่วนใครที่คิดว่าร้านไวน์คงไม่ใส่ใจเรื่องอาหารนัก ขอบอกว่าคิดผิด เพราะแม้จะเป็นสไตล์โฮมคุก แต่เชฟซันก็ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในแต่ละจานให้แกลมเก๋ เป็นเมนูที่อร่อยง่ายแต่ไม่เรียบง่าย ที่สำคัญคือเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพดีทุกจาน มอบความประทับใจและชวนให้กลับมากินได้บ่อย

เริ่มต้นด้วย Mixed Artisanal Cheese & Charcuteries จานรวมชีสและชาร์กูเตอรีอาร์ติซานที่เชฟคัดสรรให้ จานรวมชีส อาทิ Parmigiano Reggiano ‘Vacche Brune’ 24 Months ชีสเซมิซอฟต์บ่มนาน 24 เดือนจากอิตาลี Brie & Black Truffle ‘Duo’ ชีสนมวัวจากฝรั่งเศสที่นุ่มละมุนสอดแทรกชั้นของครีมทรัฟเฟิล ด้านชาร์คูเตอรีที่เชฟซันจัดให้ อาทิ Salami Chili ซาลามีรสเผ็ด Mortadella with Pistachio แฮมมอร์ตาเดลลาและพิสตาชิโอ Coppa di Parma แฮมที่ทำจากเนื้อหมูส่วนคอและไหล่ตอนบนให้รสเช้มข้น และ Culatello แฮมอิตาเลียนระดับพรีเมียมทำจากส่วนต้นขาด้านในของขาหลังหมูที่นุ่มที่สุด จับคู่กับไวน์สปาร์คกลิ้งเพิ่มความอยากอาหาร

สำหรับจานเรียกน้ำย่อย เชฟนำเสนอ Burrata, “Precoce Toscana” สลัดชีสบูร์ราตา เสิร์ฟกับแอพริคอตแห้ง ผักเคลทอดกรอบ และฮาเซลนัต ตามด้วย Balik Smoked Salmon Carpaccio ใช้เนื้อ Salmon Loin ส่วนที่หายากของปลาแซลมอลมาสไลด์บาง ทอปด้วยไข่ขาว แคร็มแฟรช เคเปอร์ และไข่ปลาแซลมอน เป็นจานกินเล่นที่สดชื่น จับคู่กับไวน์ขาว

พาสตาก็เป็นจานเด็ดของที่นี่เช่นกัน ใครชอบซีฟู้ดต้องลอง Mertelli Spaghetti สปาเกตตีผัดในซอสบิสก์เข้มข้นที่ทำจากหัวกุ้งคาราบิเนรอส (กุ้งแดงเสปน) สีชมพูสวย ทอปด้วยเนื้อกุ้งคาราบิเนรอสสดหวานฉ่ำ เข้ากับไวน์ขาวได้อย่างดี

จานหลักที่แนะนำ Pan Seard Snow Fish สเต็กปลาหิมะชิ้นโตเสิร์ฟในซุปบร็อทเห็ดมอเรล เป็นจานหลักที่ให้รสคลีนๆ แต่มีความอูมามิกินแล้วหยุดไม่ได้ ตามด้วย Roast Duck เรียบง่ายแต่อร่อยล้ำ เป็ดคลองไผ่ตัวผู้เนื้อนุ่มแน่นย่างหนังกรอบ ราดซอสจูส์เป็ดใส่ไวน์แดงรสเข้มข้น เสิร์ฟเคียงกับพาร์สนิปพูเร่ เห็ดแชมปิญอง และบีตรูท เพิ่มความเอิร์ธตี้ให้กับจานนี้ จับคู่กับไวน์แดงได้อย่างลงตัว

ปิดท้ายด้วย Crepe Suzette ของหวานฝรั่งเศสคลาสสิกปรุงสดให้ชมที่เคาน์เตอร์อย่างได้อรรถรส จานนี้มีทั้งความหอมหวานคาราเมล รสเปรี้ยวสดชื่นของส้ม และรสหวานนวลของไอศกรีมวานิลลา จับคู่กับไวน์หวานได้อย่างลงตัวมาก นอกจากเมนูอะ ลา คาร์ท ที่ร้านยังมีเมนู Set Lunch ในราคาสมเหตุสมผล ให้คนทำงานได้แวะมาฝากท้องช่วงมื้อกลางวันได้อีกด้วย

เป็นมื้ออร่อยจากการร่วมมือของเชฟและซอมเมอลิเยร์ที่สมบูรณ์แบบ และถ้าอยากซื้อไวน์หรือชีสกลับไปอิ่มเอมต่อที่บ้านก็เริ่มช้อปกันต่อที่ร้านได้เลย